ข่าวไฟเขียวเอกชนควบรวมกิจการรถโดยสาร - kachon.com

นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยความคืบหน้าการปฏิรูปเส้นทางรถโดยสารสาธารณะ 269 เส้นทางว่า ขณะนี้สรุปยอดตัวเลขเส้นทางใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนประมาณ 25 เส้นทาง ส่วนเส้นทางเดินรถเดิมจะปรับให้มีระยะทางสั้นลง เพื่อลดการทับซ้อนเส้นทางเดินรถ เช่น เส้นทางเดิมแทบทุกสายจะวิ่งเข้าใจกลางเมืองอย่างอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ อนาคตจะปรับให้เส้นทางวิ่งไปยังจุดเชื่อมต่อระบบขนส่งอย่างสถานีรถไฟฟ้าขนาดใหญ่ ท่าเรือสำคัญริมแม่น้ำเจ้าพระยา สถานีขนส่งและสนามบินตามนโยบายการขนส่งไร้รอยต่อ ดังนั้นรถเมล์จึงเป็นเพียงฟีดเดอร์กวาดผู้โดยสารเข้าระบบขนส่งหลักอื่นๆ อย่างไรก็ตามมองว่าเป็นไปได้ยากที่จะผลักดันให้การปฏิรูปเสร็จในปี 62 ตามแผนที่ได้ตั้งไว้ เนื่องจากต้องมีขั้นตอนจัดสรรเส้นทางให้เอกชนรายเดิมและรายใหม่ ส่วนด้านผู้ประกอบการต้องลงทุนวงเงินกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท เพื่อจัดซื้อรถใหม่ 4,000 คัน หรือเฉลี่ย 4 ล้านบาทต่อคัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายทั้งการรอแหล่งเงินทุนและขั้นการตอนส่งมอบรถที่ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือน

นายกมล กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่มีการจัดตั้งบริษัทเอกชน เพื่อควบรวมกิจการรถโดยสารเอกชนร่วมบริการหรือ รถร่วมองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ตามหลักแล้วสามารถทำได้ไม่ผิดกติกา แต่ต้องรอดูว่าจะเจรจาไปได้ถึงไหนและมีรูปแบบการบริหารรถร่วมทั้งหมดได้อย่างไร ตอนนี้ยังไม่มีข้อห้ามแต่จะพิจารณาเรื่องการผูกขาดกิจการ เพราะต้องไม่ลืมว่า ขสมก. ยังอยู่ในฐานะผู้ประกอบการที่ต้องจัดเส้นทางเดินรถให้ด้วย

ด้านนายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) หรือ CHO กล่าวว่า บริษัท อมรรัตนโกสินทร์ จำกัด มีแผนที่จะควบรวมกลุ่มผู้ประกอบการให้เข้มแข็งมากขึ้น โดยการเจรจากับผู้ประกอบการเดิม เพื่อขอจ้างเหมาวิ่งรถในแต่ละวัน รวมถึงการเจรจาข้อเสนออื่นๆ ด้วย อย่างไรก็ตามในช่วงไตรมาสแรกของปี 62 จะเดินหน้าสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญการยกระดับระบบขนส่งสาธารณะควบคู่กับการเดินหน้าเข้าหาผู้ประกอบการ ก่อนวางแผนลงทุนจัดซื้อรถเมล์ใหม่ พร้อมติดตั้งระบบเครื่องอ่านบัตรโดยสารอัตโนมัติ (อีทิคเก็ต) รองรับตั๋วร่วมและบัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย รวมถึงเพิ่มช่องทางการชำระเงินแบบดิจิทัล