นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานดูแลประชาชนช่
วงเทศกาลปีใหม่ 62 ที่ ขบ. ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย อาทิ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.), สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึ
กษา (สอศ.), ทหาร, ตำรวจ และท้องถิ่น ดูแลอำนวยความสะดวกและปลอดภัยตั้
งแต่ต้นทาง ระหว่างทาง จนถึงจุดหมายปลายทาง ตามมาตรการ 777 ของกระทรวงคมนาคม ภายใต้แนวคิด One Transport โดยเฉพาะในช่วง 7 วัน ระหว่างเทศกาลปีใหม่ วันที่ 27 ธ.ค.61-2 ม.ค.62 ซึ่งเป็นช่วงที่ประชาชนเดิ
นทางพร้อมกันเป็นจำนวนมาก โดยมีมาตรการสำคัญคือการตรวจเข้
มข้นรถโดยสารและพนักงานขับรถที่
สถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดจอดทั่
วประเทศทั้งหมด 196 แห่ง ตรวจเข้มข้นรถโดยสารและพนั
กงานขับรถ รวม 132,813 คัน แบ่งเป็นรถหมวด 2 (กรุงเทพ-ต่างจังหวัดทุกเส้
นทาง) จำนวน 63,894 คัน
นายพีระพล กล่าวต่อว่า และรถหมวด 3 (เส้นทางระหว่างจังหวัด) 68,919 คัน พบรถโดยสารไม่พร้อมให้บริ
การจำนวน 7 คัน โดยได้สั่งพ่นห้ามใช้รถทันที
จำนวน 1 คัน เนื่องจากระบบ GPS ไม่ทำงาน และสั่งให้เปลี่ยนรถอีกจำนวน 6 คันส่วนการตรวจความพร้อมพนักงานขั
บรถจำนวน 132,813 ราย มีการดำเนินการสั่งเปลี่ยนพนั
กงานขับรถจำนวน 2 ราย เนื่องจากร่างกายอ่อนเพลีย ทั้งนี้จากการดำเนินงานดังกล่าวพบว่าผู้
ประกอบการมีความตื่นตัวและให้
ความร่วมมือนำรถโดยสารที่มี
มาตรฐานความปลอดภัยมาให้บริ
การประชาชน รวมถึงพนักงานขับรถมีความตระหนั
กและมีความพร้อมในการปฏิบัติหน้
าที่ขับรถอย่างปลอดภัย ส่งผลให้จำนวนอุบัติเหตุที่มี
รถโดยสารสาธารณะเป็นต้นเหตุ
ลดลงเหลือ 5 ครั้ง โดยสาเหตุไม่ได้เกิดจากการใช้
ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จึงไม่มีผู้โดยสารที่มากั
บรถโดยสารสาธารณะเสียชีวิตหรื
อบาดเจ็บ
นายพีระพล กล่าวอีกว่า ความปลอดภัยในการเดินทางด้
วยรถโดยสารสาธารณะในช่
วงเทศกาลปีใหม่เป็นผลสืบเนื่
องมาจากการดำเนินมาตรการเชิงป้
องกันเข้มข้นจริงจัง ตามที่ ขบ. กระทรวงคมนาคม และรัฐบาล มุ่งมั่นดำเนินการมาอย่างต่อเนื่
อง โดยเฉพาะมาตรการตรวจรถโดยสารและ
พนักงานขับรถมาตั้งแต่ก่
อนเทศกาล วันที่ 6-12 ธ.ค.61 วันที่ 20-26 ธ.ค.61 และเข้มข้นช่
วงเทศกาลวันที่ 27 ธ.ค.61-2 ม.ค.62 และจุด Checkpoint ระหว่างทางบนถนนสายหลัก 17 จังหวัด 18 แห่ง ประกอบด้วย จ.กำแพงเพชร พิษณุโลก ลำปาง ตาก ขอนแก่น บุรีรัมย์ นครราชสีมา (2 แห่ง) อุดรธานี ร้อยเอ็ด ชัยนาท ระยอง ฉะเชิงเทรา ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ และสงขลา นอกจากนี้ ยังได้มอบอุ
ปกรณ์ป้องกันการหลับในให้กับพนั
กงานขับรถ ซึ่งจะมีเสียงเตือนเมื่อมี
อาการสัปหงกศีรษะเอียงมาด้านหน้
า ทำให้รู้สึกตัวก่อนและไม่เกิดอุ
บัติเหตุ ทั้งนี้ศูนย์บริหารจัดการเดินรถระบบ GPS ส่วนกลางและศูนย์ฯ GPS แต่ละจังหวัด ติดตามรถโดยสารทุกคันผ่านระบบ GPS Tracking ตลอด 24 ชม. และบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่
ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบและยับยั้
งพฤติกรรมเสี่ยงทันที
นายพีระพล กล่าวด้วยว่า ตลอดจนประชาชนสามารถติ
ดตามรถโดยสารที่ใช้บริการทุกคัน ผ่านแอปพลิเคชัน DLT GPS และจัดตั้งศูนย์คุ้มครองผู้
โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน 1584 ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่
ใช้บริการภายในสถานีขนส่งผู้
โดยสารให้เข้าถึงบริการและการดู
แลจากเจ้าหน้าที่ภาครัฐได้อย่
างรวดเร็ว ทั้งยังจัดให้มีผู้รับผิดชอบด้
านความปลอดภัย (Transport Safety Manager) ทำหน้าที่บริหารจัดการ ตรวจสอบความปลอดภัยในการขนส่
งทางถนน รวม 5 ด้าน ได้แก่ รถ พนักงานขับรถ การเดินรถ การบรรทุก/การโดยสาร และการบริหารจัดการด้
านความปลอดภัย เพื่อร่วมป้องกันการเกิดอุบัติ
เหตุทางถนน และช่วยส่งเสริมให้การขนส่
งทางถนนของประเทศไทยมี
มาตรฐานอย่างยั่งยืน
นายพีระพล กล่าวต่อด้วยว่า ส่วนของการอำนวยความสะดวกให้
ประชาชนที่ใช้รถใช้ถนน โดยกองทุนเพื่อความปลอดภั
ยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) ร่วมกับสำนั
กงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ตั้งจุดบริการอาชี
วะอาสาบนถนนสายหลัก 189 แห่งทั่วประเทศ ให้บริการตรวจสภาพรถเบื้องต้
นฟรีตลอดช่วง 7 วันการเดินทางของประชาชน และร่วมกับภาคีเครือข่าย 2,300 แห่งทั่วประเทศ ให้บริการ “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย” ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.61 ต่อเนื่องถึงวันที่ 31 ม.ค.61 และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนร่
วมเป็นส่วนหนึ่งของการป้องกั
น และลดอุบัติเหตุทางถนนด้
วยการตระหนักถึงความสำคั
ญของการขับขี่อย่างปลอดภัย “ขับช้า เปิดไฟหน้า คาดเข็มขัดนิรภัย” “รถมอเตอร์ไซค์ เปิดไฟ ใส่หมวกกันน็อก”