ยกเครื่องรถทัวร์2 ชั้นติดสติ๊กเกอร์
เศรษฐกิจ
นพ.ธนะพงศ์ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันระบบแจ้งเตือนจีพีเอสของรถทัวร์ 2 ชั้น ควรเป็นระบบเรียลไทม์แจ้งคนขับได้ทันที เพราะปัจจุบันเป็นการแจ้งเตือนไปยังบริษัทผู้ประกอบการ ก่อนที่จะโทรแจ้งไปยังคนขับ นอกจากนี้ขอให้รถบัสโดยสารเพิ่มวงเงินประกันภัย จาก 10 ล้านบาทต่อคัน เป็น 30 ล้านบาทต่อคัน ตามผลการศึกษาของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เพราะในจำนวน 40 ที่นั่ง หากมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก จะต้องเสียค่ารักษาต่อคนหลายแสนบาท ทำให้เหลือวงเงินชดเชยให้ผู้เสียชีวิตแค่หลักหมื่นบาท
นพ.ธนะพงศ์ กล่าวอีกว่า การเช่ารถทัวร์ 2 ชั้น เพื่อทัศนาจร ทางผู้จัดกิจกรรมควรซื้อประกันภัยต่อคน หรือประกันภัยแบบพีเอให้กับผู้โดยสารเพิ่มเติมจากบริษัทผู้ประกอบการรถบัสโดยสารด้วย เพราะมีความเสี่ยงมากหากต้องขับออกนอกเส้นทางที่พนักงานขับรถไม่มีความชำนาญ อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้กรณีรถทัวร์ตกเหวดอนรวก ที่ จ.อุตรดิตถ์ ทางหน่วยงานเทศบาลที่เป็นผู้เช่ารถ ได้ซื้อประกันเพิ่มเติม ทำให้ผู้เสียชีวิตได้รับเงินชดเชยเป็นหลักล้านบาทต่อคน
นพ.ธนะพงษ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับความคืบหน้าการสืบสวนกรณีอุบัติเหตุรถทัวร์ 2ชั้น จ.ร้อยเอ็ด คว่ำจนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ถึง 50 รายในจ.ปทุมธานีนั้น พบว่า รถทัวร์ที่คันที่เกิดอุบัติเหตุ ทะเบียน10-8175 นครราชสีมา กระทำความผิดหลายครั้งตั้งแต่ปี 60-61 ซึ่งมีข้อหาส่วนใหญ่ไม่ขับรถชิดช่องซ้ายสุดถึง 18 ครั้ง จากข้อมูลของตำรวจทางหลวง ข้อมูลเหล่านี้ไม่มีการเชื่อมโยงไปที่ ขบ. นอกจากนี้ยังพบว่า แท่งปูนแบริเออร์หลุดเพราะไม่ได้มีการยึดเกาะ กรณีนี้ถ้าไม่ได้ชนปะทะ 90 องศา และการไม่มีการยึดเกาะที่แข็งแรงรถอาจพลิกคว่ำได้ ขณะเดียวกันยังมีประเด็นที่ผู้โดยสารไม่คาดเข็มขัดนิรภัยส่งผลต่อสมรรถนะ การทรงตัว และการกำกับจำนวนผู้โดยสาร ตั้งแต่ต้นทาง และระหว่างทางด้วย