21 ม.ค. นี้ ดีเดย์เข้มจับรถตู้หมดอายุแอบวิ่ง
เศรษฐกิจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา เวลา 09.00 น. ที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ และรักษาการผู้อำนวยการ ขสมก. ร่วมกับ กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กำหนดมาตรการกวดขันจับกุมรถตู้โดยสารสาธารณะที่มีอายุการใช้งานเกิน 10 ปี เพื่อสร้างความปลอดภัย และความมั่นใจให้กับประชาชนผู้ใช้บริการรถตู้โดยสาร
นายประยูร เปิดเผยว่า จากเหตุกรณีถังก๊าซเอ็นจีวี ภายในรถแท็กซี่ ระเบิดขณะเติมก๊าซ เป็นเหตุให้คนขับรถแท็กซี่และพนักงานเติมก๊าซได้รับบาดเจ็บสาหัส ประกอบกับรถตู้โดยสาร เส้นทางหมวด 1 ที่วิ่งให้บริการในกรุงเทพฯ และปริมณฑล หากฝ่าฝืนนำรถตู้ที่มีอายุการใช้งานครบ 10 ปี มาให้บริการทำให้สุ่มเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุค่อนข้างสูง เพราะระบบบังคับเลี้ยว ระบบเบรก ระบบไฟฟ้า ระบบเชื้อเพลิง และสายไฟภายในรถจะมีการเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน รวมทั้งถังก๊าซก็จะหมดอายุการรับรองคุณภาพ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดอุบัติเหตุ
นายประยูร กล่าวต่อว่า จากสถิติรถตู้โดยสารที่มีอายุการใช้งานเกิน 10 ปี ตั้งแต่ปี 58-61 พบว่ามี 1,993 คัน ซึ่งผู้ประกอบการได้นำรถตู้โดยสารใหม่ มาเปลี่ยนทดแทนรถตู้โดยสารคันเดิมแล้ว 340 คัน คงเหลือรถตู้โดยสารที่มีอายุการใช้งานเกิน 10 ปี 1,653 คัน และมีบางส่วนฝ่าฝืนนำรถออกวิ่งให้บริการประชาชน ขณะที่ในปี 62 จะมีรถตู้หมดอายุอีก 800 กว่าคัน และในปี 63 อีก 1,300 กว่าคัน ขสมก. จึงร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการเข้มงวดจับกุมรถตู้หมดอายุมาวิ่งเบื้องต้นประมาณ 30 กว่าจุด ทั่วทั้ง 8 เขตการเดินรถของ ขสมก.
นายประยูร กล่าวอีกว่า โดยเฉพาะจุดให้บริการรถตู้ที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก อาทิ ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต มีนบุรี บางนา บางแค บีทีเอสจตุจักร พาต้าปิ่นเกล้า และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งเริ่มดีเดย์ในวันที่ 21 ม.ค. นี้ โดยนำร่องสุ่มตรวจที่อนุสาวรีย์ชัยฯ ก่อน อย่างไรก็ตามผู้โดยสารสามารถสังเกตรถตู้ที่ให้บริการได้ ถ้าเป็นรถตู้ใหม่จะมีการคาดลายสีเขียวและน้ำเงินมีประมาณ 300 กว่าคัน ส่วนรถตู้เก่าที่มีอายุยังไม่ครบ 10 ปี ตอนนี้มีการคาดลายสีชมพูและสีม่วงจะมีการตรวจสภาพรถตู้ทุกปีของ ขสมก. จากนั้นจะมีการติดสติ๊กเกอร์ให้กับรถตู้ที่ผ่านการตรวจสภาพทุกคัน
ด้านนายกิจจา สมสุข รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองตรวจการ ขบ. กล่าวว่า หากพบรถตู้หมดอายุแล้วนำมาวิ่งจะมีการพิจารณาการกระทำผิดกฎหมาย 2 กรณี คือ กรณีมีความผิดไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขนายทะเบียนเกี่ยวกับอายุรถ โทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท และ กรณีใช้รถไม่จดทะเบียน มีโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท