ข่าวสร้างแกนนำ 'ยัวส์เน็ตเวิร์ก' ขับขี่ปลอดภัย - kachon.com

สร้างแกนนำ 'ยัวส์เน็ตเวิร์ก' ขับขี่ปลอดภัย
เศรษฐกิจ

photodune-2043745-college-student-s

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 18 ม.ค.62 ณ โรงแรมเอบีน่า เฮ้าส์ นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เป็นประธานเปิดการประชุมเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อการขยายต่อยอด โครงการเครือข่ายเยาวชนปฏิบัติการเพิ่มความปลอดภัยทางถนนจากสถานศึกษาสู่ชุมชนยัวส์เน็ตเวิร์ก (YOURS Network) เพื่อถอดบทเรียนการดำเนินงานในพื้นที่นำร่องสำหรับขยายผลในอนาคต มุ่งสร้างแกนนำเยาวชนและเครือข่ายด้านความปลอดภัยทางถนนระดับพื้นที่ทั่วประเทศ

นายกมล เปิดเผยว่า กองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) ร่วมกับมหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) ดำเนินโครงการดังกล่าว เพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจ และสร้างความตระหนักด้านความปลอดภัยทางถนน พัฒนาให้เกิดแกนนำเยาวชนและเครือข่ายด้านความปลอดภัยทางถนนระดับพื้นที่ และมีบทบาทเป็นผู้นำด้านความปลอดภัยจากอุบัติเหตุจราจรภายในและภายนอกโรงเรียน มีบทบาทช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรอำนวยความสะดวกบริเวณหน้าโรงเรียนและในโรงเรียน อีกทั้งช่วยเหลือครู-อาจารย์ จัดระเบียบการจราจรในโรงเรียน และขยายผลไปยังเพื่อนนักเรียนให้มีวินัยจราจรใช้รถใช้ถนน และขับขี่รถอย่างปลอดภัย โดยได้นำร่องในสำนักงานขนส่งจังหวัด 5 พื้นที่ ได้แก่ จันทบุรี สงขลา ชัยภูมิ เพชรบูรณ์ และสระแก้ว สำหรับจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อขยายต่อยอดโครงการเครือข่ายเยาวชนปฏิบัติการ เพิ่มความปลอดภัยทางถนนจากสถานศึกษาสู่ชุมชน “YOURS Network” ได้เลือกสำนักงานขนส่งจังหวัดจันทบุรีและสำนักงานขนส่งจังหวัดสงขลา เป็นภาพแทนพื้นที่เพื่อถอดบทเรียนการดำเนินงาน ปัจจัยความสำเร็จ



นายกมล กล่าวต่อว่า รวมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือข้อเสนอแนะรูปแบบที่เป็นประโยชน์ต่อการขยายโครงการในจังหวัด โดยมีเป้าหมาย คือ 1.ได้รูปแบบและแนวทางการดำเนินงานที่เหมาะสมและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเด็กและเยาวชนได้จริง 2.ได้แนวทางการพัฒนาโครงการเครือข่ายยาวชนปฏิบัติการเพิ่มความปลอดภัยทางถนนจากสถานศึกษาสู่ชุมชน “YOURS Network” และข้อเสนอแนะสำหรับสนับสนุนโครงการต่อไป 3.เจ้าหน้าที่ ขบ. ตระหนักและเห็นความสำคัญของโครงการเครือข่ายเยาวชนปฏิบัติการเพิ่มความปลอดภัยทางถนนจากสถานศึกษาสู่ชุมชน “YOURS Network” และเข้าใจแนวทางการดำเนินโครงการฯ เพื่อนำไปสู่ตัดสินใจร่วมขยายผลโครงการฯ ต่อไปให้ครอบคลุมทั้งประเทศ

นายกมล กล่าวอีกว่า สำหรับ จ.จันทบุรีสามารถแสดงภาพแทนของบริบทพื้นที่ภาคตะวันออกที่มีปัญหาเรื่องการเดินทางไปโรงเรียนของเด็กนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา ทำให้เด็กนักเรียนต้องใช้รถจักรยานยนต์ในการเดินทางและเกิดอุบัติเหตุเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตในกลุ่มเด็กและเยาวชน ขณะที่ จ.สงขลาสามารถเป็นภาพแทนของบริบทพื้นที่ภาคใต้ เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ การลงทุน การท่องเที่ยว และเป็นทางผ่านเพื่อเชื่อมต่อไปยังจังหวัดที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ทำให้มีปริมาณการจราจรค่อนข้างสูง ส่งผลต่อจำนวนการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ ปี  2559 ที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจำนวน 5,247 ครั้ง โดยกลุ่มผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นนักเรียนและนักศึกษา

ทั้งนี้ประเทศไทยถูกจัดอันดับจากองค์การอนามัยโลกให้เป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากประเทศลิเบีย ด้วยอัตราการเสียชีวิต 36.2 ราย ต่อประชากรแสนคน หรือปีละ 24,237 ราย หากพิจารณาจากข้อมูลมรณบัตรปี 2554-2557 พบว่า กลุ่มเยาวชน อายุ 15-19 ปี เป็นกลุ่มที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุด เฉลี่ยปีละ 1,688 ราย โดยเฉพาะหากนับรวมกลุ่มอายุ 0-14 ปี พบว่า มีจำนวนผู้เสียชีวิตในกลุ่มอายุ 0-19 ปี เฉลี่ยปีละ 2,509 ราย ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องและภาคีเครือข่ายด้านความปลอดภัยทางถนนจึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการเสริมด้านความปลอดภัยทางถนนกับเด็กและเยาวชน