ข่าวขนส่งฯ ระบุยังไม่ขึ้นค่าโดยสารรถเมล์-รถทัวร์ ฝ่าฝืนปรับสูงสุด - kachon.com

ขนส่งฯ ระบุยังไม่ขึ้นค่าโดยสารรถเมล์-รถทัวร์ ฝ่าฝืนปรับสูงสุด
เศรษฐกิจ

photodune-2043745-college-student-s

นายกมล บูรณพงศ์ รองกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางมีมติเลื่อนการปรับขึ้นค่าโดยสารรถโดยสารประจำทางทุกประเภท ออกไปจากกำหนดเดิมเป็นวันที่ 22 เม.ย.62 ส่งผลให้ผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทางทุกประเภทต้องปฏิบัติตามมติดังกล่าวอย่างเคร่งครัด โดยต้องจัดเก็บค่าโดยสารตามอัตราเดิมที่ทางราชการกำหนด ทั้งนี้พบว่ามีผู้ประกอบการบางรายฉวยโอกาสเก็บค่าโดยสารโดยใช้อัตราใหม่ ซึ่งจะมีผลวันที่ 22 เม.ย.62 นั้น ขบ. ได้จัดผู้ตรวจการลงพื้นที่ตรวจสอบตามประเด็นร้องเรียนและควบคุมการให้บริการให้เป็นไปตามเงื่อนไข หากตรวจสอบพบการฉวยโอกาสเก็บค่าโดยสารเพิ่มจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ.2522 ฐานเรียกเก็บอัตราค่าโดยสารผิดไปจากที่ทางราชการกำหนด ปรับสูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท พร้อมบันทึกประวัติการกระทำความผิด และหากพบการกระทำผิดซ้ำพิจารณาพักใช้เพิกถอนใบอนุญาตผู้ประจำรถ ทั้งผู้ขับรถและผู้เก็บค่าโดยสาร รวมถึงผู้ประกอบการจะมีความผิดฐานไม่ควบคุมกำกับดูแลการให้บริการซึ่งจะมีผลต่อการพิจารณาต่ออายุใบอนุญาตประกอบการขนส่งฃ



นายกมล กล่าวต่อว่า สำหรับอัตราค่าโดยสารในปัจจุบัน ดังนี้ รถของ ขสมก. 6.50 บาท  รถร่วม ขสมก. (บัสใหญ่และมินิบัส) 9 บาท รถโดยสารปรับอากาศ 12-20 บาท  รถโดยสารปรับอากาศ (Euro) 13-25 บาท  รถสองแถว 7 บาท  รถตู้โดยสารจัดเก็บในอัตราเดิม ในขณะที่รถหมวด 2 หมวด 3 ที่ให้บริการในต่างจังหวัด ทั้งรถบัส บขส.และรถร่วม บขส. แบ่งเป็น 4 ช่วง ประกอบด้วย ระยะทาง 40 กม.แรก 0.49 บาทต่อ กม., 40-100 กม. 0.44 บาทต่อ กม., 100-200 กม. 0.40 บาทต่อ กม. และเกิน 200 กม. 0.36 บาทต่อ กม. กรณีเป็นรถตู้และรถโดยสารขนาดเล็ก 0.67 บาทต่อ กม. กรณีประชาชนพบรถโดยสารสาธารณะเก็บค่าโดยสารเกิน สามารถแจ้งกับผู้ตรวจการได้โดยตรง หรือร้องเรียนผ่านสายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมงหรือ ผ่านทางเว็บไซต์ที่ https://ins.dlt.go.th/cmpweb/, ผ่านทาง E-mail ที่ [email protected], ผ่านทาง Facebook ชื่อ “1584 ร้องเรียนรถโดยสารสาธารณะ” หรือเดินทางมาร้องเรียนด้วยตนเอง ณ กรมการขนส่งทางบก โดยระบุรายละเอียดรถและผู้ขับรถคันที่กระทำความผิด เช่น หมายเลขทะเบียนรถ ชื่อ-นามสกุลผู้ขับรถ วันเวลาสถานที่เกิดเหตุ ให้ชัดเจน ซึ่งจะทำให้กระบวนการติดตามตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษเป็นไปด้วยความรวดเร็ว