ข่าวให้อำนาจเอกชนล็อกล้อ-ยกรถ - kachon.com

นายชยธรรม์ พรหมศร รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) เปิดเผยว่า แผนแม่บทการแก้ไขปัญหาจราจรในกรุงเทพฯและปริมณฑล ตามนโยบาย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมีความคืบหน้าของมาตรการแก้ปัญหาระยะสั้น5 ปีแล้ว เริ่มจากการแก้ปัญหาเส้นทางวิกฤติที่ส่งผลให้สายทางอื่นมีปัญหาไปด้วย เช่น ถนนรัชดาภิเษก ซึ่งมีจุดตัดทางแยกมากถึง28 จุด สร้างอุโมงค์สะพานไปแล้ว 18 จุดเหลืออีก10 จุดอยู่ระหว่างก่อสร้าง 3 จุดมีแผนให้สร้างสะพานหรืออุโมงค์เพิ่ม อาทิ จุดตัดทางแยกเทียนร่วมมิตร, จุดตัดพระราม9, จุดตัดเพชรบุรี และจุดตัดอโศก

คาดว่า ภายในเดือน ก.พ.นี้ จะนำเสนอที่ประชุมคณะอนุกรรมการประสานการแก้ไขปัญหาจราจรและขนส่งระยะเร่งด่วนในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งมีนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธานเห็นชอบก่อนเสนอนายกรัฐมนตรี รวมทั้งคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก(คจร.) บรรจุแผนเพื่อมอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป

นายชยธรรม์ กล่าวอีกว่า สำหรับแผนแก้ปัญหารถติดตามแนวเส้นทางก่อสร้างรถไฟฟ้า3 สาย ได้แก่รถไฟฟ้าสายสีชมพู(แคราย-มีนบุรี) , สายสีเหลือง(ลาดพร้าว-สำโรง) และสายสีส้มตะวันออก(ศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เสนอให้แก้กฎหมายจราจร เพื่อเปิดช่องให้เอกชนเข้ามาช่วยแก้ปัญหาและแบ่งเบาภาระตำรวจโดยให้อำนาจล็อคล้อ และยกรถผู้กระทำผิดกฎจราจรได้ทันทีเหมือนต่างประเทศ เพิ่มเติมจากให้อำนาจแค่ตำรวจ โดยภาครัฐว่าจ้างเอกชนก็ได้ ควบคู่กับการจัดหารถชัตเติ้ลบัสรับส่งผู้โดยสารป้อนรถไฟฟ้า ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการส่งเสริมให้ประชาชนลดการใช้รถส่วนตัวหันมาใช้ขนส่งสาธารณะ

รายงานข่าวแจ้งว่า แผนลงทุนแก้จุดตัดบนถนนรัชดาภิเษก คาดว่าจะใช้งบประมาณราว5,000-10,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยจุดละ 500-1,000 ล้านบาท และอาจจะมากขึ้นหากมีปัญหาเรื่องการเวนคืนพื้นที่