พาณิชย์แนะเอกชนใช้โดรน-เทคโนโลยีใหม่เสริมธุรกิจ
เศรษฐกิจ
Webmaster
2019-01-28 11:58:00
23
Webmaster
2019-01-28 11:58:00
23
-
สนับสนุนเนื่อหา
น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า โดรน หรือ อากาศยานไร้คนขับ เป็นโอกาสของธุรกิจยุคใหม่ ที่จะช่วยสนับสนุนธุรกิจได้หลายมิติ โดยเฉพาะ ธุรกิจสร้างสรรค์ เช่น การถ่ายรูป/วิดิทัศน์ ธุรกิจโลจิสติกส์ ทั้งการขนส่งสินค้า (เชื่อมโยงกับธุรกิจ E-Commerce) ธุรกิจเกษตร เช่น การฉีดพ่นปุ๋ย/ยากำจัดศัตรูพืช ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารเคมีและเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกได้ และใช้ในการสำรวจเก็บข้อมูลเพื่อการพยากรณ์อากาศและสภาพดิน
อย่างไรก็ตาม การใช้โดรน ต้องมีมาตรการไม่ให้กระทบสิทธิส่วนบุคคลและการรักษาความปลอดภัย เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่เข้าถึงพื้นที่ส่วนบุคคลได้โดยง่าย ดังนั้น ธุรกิจและผู้ใช้งานจึงต้องศึกษาและปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่องหลักเกณฑ์การอนุญาตและเงื่อนไข ในการบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน โดยสำนักงานการบิน พลเรือนแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นการลงทะเบียนผู้บังคับ เดน โดรน (ใบขับขี่) และประกาศ กสทช. (สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) เรื่องหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ซึ่งเป็นการลงทะเบียนเครื่องโดรน และขอใช้
ความถี่ที่กำหนด (ใบทะเบียนพาหนะ) นอกจากนี้ การใช้โดรนต้องขออนุญาตเจ้าของพื้นที่ก่อนใช้งานด้วย
ปัจจุบัน โดรน ในโลกมีประมาณ 3 ล้านเครื่อง สัดส่วน 75% ผลิตที่ประเทศจีน โดยเฉพาะ เมืองเสินเจิ้น ที่เป็นทั้งแหล่งผลิต การวิจัยพัฒนา การสัมมนาระดับโลก (ประชุมโดรนโลก) ทั้งนี้โดรน ในโลกมีการวิจัยและพัฒนาโดยบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศต่างๆ อาทิ Amazon ของอเมริกา Alibaba และ JD Group ของจีน ถือว่าโดรนเป็นอีกหนึ่งแนวโน้มที่สำคัญระดับโลกของเทคโนโลยีและธุรกิจยุคใหม่
นอกจากนี้การพัฒนาการของโดรน ระดับโลก อาทิ JD Group สามารถบรรทุกสินค้าหนักได้ถึง 30 กม. บินได้ไกลถึง 100 กม. รองรับการขนส่งสินค้าไปยังพื้นที่ห่างไกลและยากต่อการเข้าถึง สำหรับ Alibaba อยู่ระหว่างศึกษาและทดลองผลิต โดรน ให้บินได้ไกลถึง 1,500 กม. เพื่อการขนส่งระยะไกลข้ามมณฑล นอกจากนี้ บริษัท DJI ประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตโดรน ชั้นนำของโลก ได้นำเสนอรูปแบบการใช้โดรนกับการเกษตร โดยใช้พ่นสารเคมี สามารถบรรทุกของเหลวได้สูงสุด 10 กก. ครอบคลุมพื้นที่ 3-4 ไร่ ใช้เวลาเพียง 10 นาที ประหยัดเวลาและแรงงานมนุษย์ถึง 40-60 เท่า บินได้นานเกือบครึ่งชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับน้ำหนักบรรทุก) นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีสำรวจและคำนวณพื้นที่ สามารถวาดแผนที่ดิจิทัลของพื้นที่เกษตรได้อีกด้วย
"อยากให้นักธุรกิจไทยศึกษาทดลองนำโดรน และเทคโนโลยียุคใหม่อื่นๆ โดยเฉพาะ ABCD ได้แก่ A (AI : Artificial Intelligence), B (Blockchain), C (Cloud), D (Big Data) มาประยุกต์ใช้กับธุรกิจ เพื่อพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจไทยให้สอดคล้องกับบริบทของเศรษฐกิจยุคใหม่"
อย่างไรก็ตาม การใช้โดรน ต้องมีมาตรการไม่ให้กระทบสิทธิส่วนบุคคลและการรักษาความปลอดภัย เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่เข้าถึงพื้นที่ส่วนบุคคลได้โดยง่าย ดังนั้น ธุรกิจและผู้ใช้งานจึงต้องศึกษาและปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่องหลักเกณฑ์การอนุญาตและเงื่อนไข ในการบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน โดยสำนักงานการบิน พลเรือนแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นการลงทะเบียนผู้บังคับ เดน โดรน (ใบขับขี่) และประกาศ กสทช. (สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) เรื่องหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ซึ่งเป็นการลงทะเบียนเครื่องโดรน และขอใช้
ความถี่ที่กำหนด (ใบทะเบียนพาหนะ) นอกจากนี้ การใช้โดรนต้องขออนุญาตเจ้าของพื้นที่ก่อนใช้งานด้วย
ปัจจุบัน โดรน ในโลกมีประมาณ 3 ล้านเครื่อง สัดส่วน 75% ผลิตที่ประเทศจีน โดยเฉพาะ เมืองเสินเจิ้น ที่เป็นทั้งแหล่งผลิต การวิจัยพัฒนา การสัมมนาระดับโลก (ประชุมโดรนโลก) ทั้งนี้โดรน ในโลกมีการวิจัยและพัฒนาโดยบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศต่างๆ อาทิ Amazon ของอเมริกา Alibaba และ JD Group ของจีน ถือว่าโดรนเป็นอีกหนึ่งแนวโน้มที่สำคัญระดับโลกของเทคโนโลยีและธุรกิจยุคใหม่
นอกจากนี้การพัฒนาการของโดรน ระดับโลก อาทิ JD Group สามารถบรรทุกสินค้าหนักได้ถึง 30 กม. บินได้ไกลถึง 100 กม. รองรับการขนส่งสินค้าไปยังพื้นที่ห่างไกลและยากต่อการเข้าถึง สำหรับ Alibaba อยู่ระหว่างศึกษาและทดลองผลิต โดรน ให้บินได้ไกลถึง 1,500 กม. เพื่อการขนส่งระยะไกลข้ามมณฑล นอกจากนี้ บริษัท DJI ประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตโดรน ชั้นนำของโลก ได้นำเสนอรูปแบบการใช้โดรนกับการเกษตร โดยใช้พ่นสารเคมี สามารถบรรทุกของเหลวได้สูงสุด 10 กก. ครอบคลุมพื้นที่ 3-4 ไร่ ใช้เวลาเพียง 10 นาที ประหยัดเวลาและแรงงานมนุษย์ถึง 40-60 เท่า บินได้นานเกือบครึ่งชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับน้ำหนักบรรทุก) นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีสำรวจและคำนวณพื้นที่ สามารถวาดแผนที่ดิจิทัลของพื้นที่เกษตรได้อีกด้วย
"อยากให้นักธุรกิจไทยศึกษาทดลองนำโดรน และเทคโนโลยียุคใหม่อื่นๆ โดยเฉพาะ ABCD ได้แก่ A (AI : Artificial Intelligence), B (Blockchain), C (Cloud), D (Big Data) มาประยุกต์ใช้กับธุรกิจ เพื่อพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจไทยให้สอดคล้องกับบริบทของเศรษฐกิจยุคใหม่"
