ออริจิ้นกางแผนปีหมูทุ่ม26,000 ล้านเปิดโครงการใหม่
เศรษฐกิจ
นอกจากนี้ได้เปิดตัว Brand Ambassador คนใหม่ คือซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ มาช่วยสะท้อนถึงบุคลิกแบรนด์ต่างๆ ในเครือออริจิ้น ขณะเดียวกัน จะตอกย้ำการเอาใจใส่ดูแลผู้บริโภคได้เห็นทั้งเรื่องสมาร์ทโปรดักส์ และการบริการ โดยจะมีโฆษณาตัวแรกขึ้นในวันที่ 1 ก.พ.นี้
ทั้งนี้ในปีนี้มีแผนเปิดโครงการอสังหาฯเพื่อขาย มูลค่าโครงการรวมกว่า 26,000 ล้านบาท ประกอบด้วย แบรนด์พาร์ค ออริจิ้น 3 โครงการในทำเลราชเทวี พระราม 4 และอีก 1 โครงการในย่าน New CBD มูลค่ารวมประมาณ 9,000 ล้านบาท แบรนด์ดิ ออริจิ้น 7 โครงการในย่านยอดนิยมสำหรับ New Gen ได้แก่ สุขุมวิท รัชดา ลาดพร้าว รามคำแหง และรามอินทรา มูลค่ารวมประมาณ 9,000 ล้านบาท
โครงการมิกซ์ยูสใหม่ Origin District Rayong มูลค่า 2,000 ล้านบาท และ.แบรนด์บริทาเนีย 4 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 6,000 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายจากทั้งโครงการเก่าและใหม่รวมกันไว้ที่ 28,000 ล้านบาท ขณะเดียวกัน กลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้หมุนเวียน จะเปิดตัวโรงแรมใหม่ทั้งสิ้น 2 โครงการ ทำให้ปีนี้ทุกกลุ่มธุรกิจของบริษัทจะมีการเติบโตและรายได้ที่หลากหลายมากขึ้น ส่งผลให้บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมไว้ที่ 19,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ปีที่ผ่านมา มียอดขายรวม 27,500 ล้านบาท
นางศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น เฮ้าส์ จำกัด กล่าวว่า ปีนี้บริษัทพร้อมขับเคลื่อนนำโครงการแนวราบแบรนด์บริทาเนียขึ้นมาเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจหลักของออริจิ้น ส่งเสริมให้เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด โดยโฆษณาชิ้นแรกที่มีแอมบาสซาเดอร์มาแสดงนั้นจะช่วยสะท้อนภาพลักษณ์ที่แตกต่างของแบรนด์บริทาเนียให้อยู่ในการรับรู้ของผู้บริโภค
นางกมลวรรณ วิปุลากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด บริษัทที่ดูแลธุรกิจที่สร้างรายได้หมุนเวียนในเครือออริจิ้น กล่าวว่า การก่อสร้างโรงแรมสเตย์บริดจ์ สวีทกรุงเทพทองหล่อ
และโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ สวีทส์ ศรีราชา จะเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 4 ปีนี้ และทยอยสร้างรายได้กลับเข้าสู่บริษัท อี และปีนี้มีแผนเปิดตัว 2 โครงการใหม่ ทั้งโรงแรมในกรุงเทพฯ และมิกซ์ยูสครบวงจรแห่งใหม่ในจังหวัดระยอง ที่จะมีการเติบโตสูงจากการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและสมาร์ท พาร์ค ในมาบตาพุด ที่จะเป็นศูนย์กลางแห่งใหม่ของอีอีซี
“ความต้องการเข้าพักของธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายที่สำคัญของโลกทั้งในแง่การท่องเที่ยวและการทำธุรกิจ จากความเข้าใจธุรกิจ ความเข้าใจความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย โดยจะใช้เชนระดับโลกเข้ามาบริหาร”