สายสีแดง60 บาทตลอดสาย
เศรษฐกิจ
นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท. )หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เปิดเผยความคืบหน้าการจัดตั้งบริษัทลูกเพื่อบริหารการเดินรถ ว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ( คนร.) มีมติมอบหมายให้แอร์พอร์ตลิงก์เป็นผู้บริหารการเดินรถโครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง คาดว่าจะมีการนำเรื่องการอนุมัติจัดตั้งบริษัทลูกเพื่อบริหารการเดินรถให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาได้ภายในเดือน มี.ค.นี้ โดยจะครอบคลุมการอนุมัติทุนจดทะเบียนวงเงินกว่า 3,000 ล้านบาท และโอนทรัพย์สินขบวนรถที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)ได้ทำการจัดซื้อไว้ประมาณ 25 ขบวน งบประมาณรวมประมาณ 10,000 ล้านบาท
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้บริษัทลูกดังกล่าวยังได้รับสิทธิ์เป็นผู้บริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ของสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดงจำนวน 10 สถานี จากทั้งหมด 13 สถานี ขณะที่ทางการรถไฟฯจะเป็นผู้บริหารพื้นที่พาณิชย์ในส่วนของสถานีกลางบางซื่อ ดอนเมือง และรังสิต ส่วนค่าโดยสารเฉลี่ยคนละ 32 บาท อย่างไรก็ตามคาดการณ์ว่าจะมีรายได้ประมาณปีละ 1,000 ล้านบาท และโครงการจะเริ่มถึงจุดคุ้มทุน และมีกำไรในช่วงปีที่ 7-10 รวมถึงปริมาณผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นทุกปีจึงประเมินว่าจะมีรายได้จากค่าโดยสาร 740 ล้านบาทต่อปี ส่วนรายได้จากพื้นที่เชิงพาณิชย์ 30 ล้านบาทต่อปี มีปริมาณผู้โดยสารประมาณ 70,000-100,000 คนต่อวัน ส่วนราคาค่าโดยสารกำหนดไว้สูงสุดตลอดสายที่ 60 บาท หรือ 15-60 บาท ระยะทางรวม 41 กม. หรือเฉลี่ย 1.4 บาทต่อกม. และจะยังคงอัตราไปจนถึงช่วงตลิ่งชันในอนาคต
สำหรับอัตราค่าโดยสารดังกล่าวนั้นถือว่าเป็นการจูงใจประชาชนและสนับสนุนผู้มีรายได้น้อยตามแนวชานเมืองให้สามารถเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะ ทั้งนี้บริษัทเตรียมแผนศึกษาฟีดเดอร์ หรือระบบขนส่งสาธารณะสายรอง ที่จะเป็นตัวเชื่อมให้ผู้โดยสารกับสถานีให้สะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะตามแนวเส้นทางของสายมีแดง จะมีบางสถานีที่คนไม่มาก จำนวน4 สถานี ได้แก่ สถานนีวัดเสมียนฯ สถานีทุ่งสองห้อง สถานีการเคหะ และสถานีหลักหก