ข่าวบังคับค่ายรถผลิตมาตรฐานยูโร5ลดฝุ่น80% - kachon.com

บังคับค่ายรถผลิตมาตรฐานยูโร5ลดฝุ่น80%
เศรษฐกิจ

photodune-2043745-college-student-s
นายณัฐพล รังสิตพล ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.)เปิดเผยว่า สศอ.เตรียมประสานงานสำนักมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือสมอ. ออกมาตรฐานบังคับสำหรับผู้ประกอบการรถยนต์ต้องผลิตรถให้ได้มาตรฐานยูโร 5 คาดว่า บังคับใช้ได้ภายใน 1-2 ปี เป็นแนวทางการลดมลพิษทางอากาศจากรถยนต์ให้เร็วขึ้น หลังเกิดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือพีเอ็ม 2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน และกำหนดให้โครงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (เอ็กซ์อีวี) ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ต้องผลิตรถยนต์ที่ผ่านมาตรฐานยูโร 6 ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจะต้องเป็นมาตรฐานยูโร 6 เท่านั้น การยกระดับมาตรฐานตามสหภาพยุโรป หรืออียูดังกล่าว จะทำให้ลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ถึง 37,391 9 ตัน หรือลดลงจากเดิม 80% ภายในปี 64
 
ทั้งนี้ที่ผ่านมาไม่สามารถบังคับใช้มาตรฐานยูโร 5 ได้เนื่องจากผู้ประกอบการรถยนต์ระบุถึงค่าใช้จ่ายที่จะเพิ่มขึ้นและ 15,000 -20,000 บาทต่อคัน ซึ่งจะกระทบกับผู้บริโภคแต่เมื่อมีการคำนวณถึงการปล่อยฝุ่นที่สะสมจากรถมาตรฐานยูโร4 ขณะนี้ที่มีกว่า 10 ล้านคันแล้ว ประชาชนจะต้องจ่ายเพิ่มขึ้นในการซื้อหน้ากาก เอ็น 95 ทุกวันคิดเป็น 18,250 บาทต่อปีต่อคนคิดเฉพาะคนกรุงเทพมหานคร 11 ล้านคนคิดเป็นเงินที่ต้องจ่ายถึง 200,000 ล้านบาทต่อปี ยังไม่รวมกับค่าใช้จ่ายเครื่องกรองอากาศอีกเฉลี่ย 20,000 บาทต่อหลังคาเรือนและต้องรวมกับการเปลี่ยนไส้กรองอีกจะเห็นว่า การซื้อรถยนต์ที่แพงขึ้นก็คุ้มค่าแล้ว
 
อย่างไรก็ตามปัจจุบันไทยมีรถยนต์ที่ผ่านมาตรฐานยูโร 5 ที่ผลิตและจำหน่ายในประเทศ รวมทั้งนำเข้ารถยนต์ประมาณ 171 รุ่น ได้แก่ อีโคคาร์ เฟส2 จำนวน 27 รุ่น และรถยนต์ขนาดกลางและใหญ่ จำนวน 11 รุ่น รถยนต์นำเข้า 19 รุ่น สำหรับรถยนต์ที่ผ่านมาตรฐานยูโร 6 ได้แก่ รถยนต์ขนาดกลางและใหญ่ที่ผลิตภายในประเทศ 27 รุ่น และรถยนต์นำเข้า 84 รุ่น  ดังนั้นการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองเป็นหน้าที่ของทุกคนโดยในส่วนของประชาชนสามารถช่วยได้ทันทีด้วยการซื้อรถยนต์ที่ผ่านมาตรฐานยูโร 5 ที่จะปล่อยมลพิษฝุ่น พีเอ็ม 2.5  เพียง 1 ใน 5 ของมาตรฐานยูโร 4 เดิม และประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลรถยนต์ที่ผ่านมาตรฐานยูโร 5 และยูโร 6 ผ่านฉลากอีโค สติ๊กเกอร์ ที่ติดอยู่บนตัวรถยนต์ หรือสามารถเข้าไปดูได้ที่ www.car.go.th