'ไทย ไลอ้อนแอร์'เลิกโหลดฟรีแต่ไม่ต้องซื้อเหมา
เศรษฐกิจ
น.ส.นันทพร โกมลสิทธิ์เวช ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการขายและการตลาด สายการบิน ไทย ไลอ้อนแอร์ กล่าวถึงการยกเลิกบริการโหลดน้ำหนักสัมภาระฟรี15 กก.ภายในประเทศ เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า ได้รับเสียงบ่นจากลูกค้าบ้างในโซเชียล แต่เชื่อว่าอีกไม่นานจะปรับตัวได้ เพราะสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์ ) คิดค่าใช้จ่ายน้ำหนักที่โหลดใต้ท้องเครื่องแล้ว กรณีลูกค้าจองตั๋วล่วงหน้าก่อนวันที่ 15 ม.ค.ยังได้สิทธิ์ตามเดิม แม้จะไม่ฟรีค่าสัมภาระเหมือนที่ผ่านมา แต่ไทยไลอ้อน แอร์ คิดค่าใช้จ่ายสัมภาระแบบรายกิโลไม่ต้องซื้อเหมาเหมือนโลว์คอสต์อื่นที่มีแพคเกจเหมาแบบ 5 กก . 10 กก. 15 กก. ผู้โดยสารซื้อได้ตั้งแต่1 กก. ราคากก.ละ30 บาท ไล่ไปจนถึง 45 กก. ซึ่งเป็นน้ำหนักสัมภาระตามมาตรฐานการบิน ให้ซื้อได้ต่อ 1 ที่นั่ง ดังนั้นผู้โดยสารต้องรู้ล่วงหน้าจะขนว่าสัมภาระน้ำหนักเท่าไร อาจซื้อเผื่อไว้แค่ 1- 2 กก.เท่านั้น แต่ราคากก.ละ30 บาทต้องซื้อก่อนเครื่องออก 4 ชม.ผ่านเว็บไซต์ คอลเซ็นเตอร์ หรือเคาน์เตอร์ขายตั๋วสนามบิน ถ้ามาซื้อที่เคาน์เตอร์ไม่ถึง 4 ชม.ราคาสัมภาระจะแพงกว่า คิดตามมาตรฐานของสายการบินทั่วไป
น.ส.นันทพร กล่าวต่อว่าทิศทางของธุรกิจโลว์คอสต์ จะไม่มีค่าตั๋วต่ำเหมือน2-3 ปีที่ผ่านมา ยอมรับว่าราคาต่ำใช้เพื่อการโฆษณา ต่อสู้กันในตลาดการบิน สิ่งที่ได้คือจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้น แต่สายการบินไม่มีรายได้ ดังนั้นในปีนี้จะแข่งขันกันที่บริการพิเศษมากกว่า อาทิ อาหารบริการบนเครื่อง จะเพิ่มรายได้ให้สายการบินได้ 5 % ล่าสุดได้เปิดเส้นทางดอนเมือง -ฟูกูโอะ -นาโกย่า โซาก้า ประเทศญี่ปุ่นซึ่งฟรีอาหารว่าง แต่อาหารระหว่างมื้อต้องจ่ายเพิ่ม เมื่อเดินทางกลางคืนไปถึงเช้า ความต้องการบริหารอาหารอาจจะไม่มาก ทั้งนี้จากการเปิดบริการมา 5 ปียังไม่กำไร แต่มีส่วนแบ่งทางการตลาดโลว์คอสต์ที่ 34 %