กรุงไทยส่งกองตราสารหนี้ทำตลาดชูดอกเบี้ยสูง
เศรษฐกิจ
โดยกองทุน KTFF214 อายุโครงการ 3 เดือน เน้นลงทุนในเงินฝากประจำ Agricultural Bank China , แบงก์ออฟ ไชน่า , ไชน่า คอนสตรัคชั่น แบงก์ เอเชีย , การ์ต้า เนเชอรัล แบงก์ , AL Khalij Commercial Bank , AL Ahli bank และ Comercial Bank PQSC ผลตอบแทนประมาณ1.55%ต่อปี ส่วนกองทุน KTFF 218 อายุโครงการ 6เดือน เน้นลงทุนในเงินฝากประจำ Agricultural Bank China , แบงก์ออฟไชน่า , การ์ต้า เนเชอรัล แบงก์ Union National Bank /ABU DHAB , AL Khalij Commercial Bank , AL Ahli bank และ Comercial Bank PQSC ผลตอบแทนประมาณ 1.7% ต่อปี
สำหรับอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศ อายุต่ำกว่า 4 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น ในขณะที่ตราสารอายุคงเหลือตั้งแต่4 ปี ขึ้นไปอัตราผลตอบแทนปรับตัวลดลง ตามการปรับพอร์ตของนักลงทุนต่างชาติ จากตราสารระยะสั้นไปตราสารระยะกลาง ถึงยาวเนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวตามการปรับลดคาดการณ์ จีดีพี ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ ที่เงินเฟ้อทรงตัวในระดับต่ำ โดยตลาดมีการตอบรับการประมูลพันธบัตรรุ่นอายุ 19 ปี และพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยอายุคงเหลือ3 ปี ค่อนข้างดี ซึ่งปัจจุบันอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 1.79% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวลดลงอยู่ที่ 2.11% และอายุคงเหลือ10 ปี ปรับตัวลดลงอยู่ที่ 2.45%
ส่วนอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐอเมริกา มีการปรับตัวลดลงเกือบทุกช่วงอายุ ตามกระแส การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ จากความกังวลเริ่มกลับมาหลังการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกา กับจีน มีแนวโน้มยืดเยื้อไอเอ็มเอฟปรับลดคาดการณ์จีดีพีและความคาดหวัง ว่าเฟดจะชะลอการลดขนาดงบดุล โดยอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวลดลงอยู่ที่ 2.60% ต่อปี อายุคงเหลือ5 ปี อยู่ที่ 2.59% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี อยู่ที่ 2.76%