กคช.ลุยพัฒนาที่อยู่อาศัยปีหมูช่วยคนจนมีบ้านของตนเอง
เศรษฐกิจ
3.โครงการติดตาม/ประเมินผลสัมฤทธิ์และส่งเสริมสมรรถนะให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภายใต้ “โครงการจัดทำแผนพัฒนาที่อยู่อาศัยและแผนป้องกัน/แก้ไขปัญหาชุมชนแออัด” เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านการวางแผนพัฒนาที่อยู่อาศัย ชุมชนและเมือง ตามพรบ.กําหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอํานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นปี42 โดยมีกลุ่มพื้นที่เป้าหมาย 19 กลุ่ม 73 พื้นที่
4. โครงการเคหะประชารัฐร่วมทุน เปิดโอกาสให้เอกชนร่วมลงทุนในการพัฒนาที่อยู่อาศัยกับการเคหะแห่งชาติ 3 รูปแบบ ทั้งโครงการร่วมลงทุนกับเอกชน (Joint Investment) โครงการร่วมดำเนินกิจการระหว่างภาครัฐและเอกชน (Joint Operation) และโครงการร่วมสนับสนุนภาคเอกชน (Joint Support) และ 5. โครงการบ้านล้านหลัง โดยจะพัฒนาบ้านโครงเหล็ก (Smart Home) ให้มีการออกแบบUniversal Design และเป็นบ้านประหยัดพลังงาน เพิ่มทางเลือกให้ผู้มีรายได้น้อยซื้อเป็นเจ้าของ
ขณะเดียวกันกคช.หาแนวทางแก้ไขปัญหาอาคารคงเหลือโครงการบ้านเอื้ออาทร ซึ่งมีโครงการพร้อมขาย 8,697 หน่วย โดยวางแนวทางการขายไว้หลายรูปแบบ เช่น เข้าร่วมโครงการบ้านล้านหลังของ ธอส. พร้อมอัดแคมเปญ ลด แลก แจก แถม รวมถึงจ้างเอกชนบริหารการขาย ให้ค่าตอบแทนผู้แนะนำลูกค้ามาซื้อโครงการ เช่าเพื่อซื้อ (Rent to Buy) ให้เอกชนเช่าเหมาอาคาร และขายในราคาพิเศษให้เป็นสวัสดิการหน่วยงานรัฐ เป็นต้น
ทั้งนี้ในช่วงระยะเวลา 46 ปี กคช.ได้พัฒนาที่อยู่อาศัยควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน รวมทั้งสิ้น จำนวน 734,183 หน่วย ประกอบด้วย โครงการบ้านเอื้ออาทร 279,977 หน่วย โครงการแก้ไขปัญหาชุมชนแออัด (ปรับปรุงชุมชนในที่ดินเดิมและจัดหาที่อยู่อาศัยใหม่) 233,964 หน่วย โครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชน 165,723 หน่วย โครงการเคหะข้าราชการ 50,708 หน่วย โครงการสำหรับมหาวิทยาลัยราชภัฏ 2,374 หน่วย โครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยภาคใต้ 845 หน่วย โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 1 จำนวน 334 หน่วย และโครงการแก้ไขวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ 258 หน่วย
สำหรับผลประกอบการของการเคหะแห่งชาติในปี 61 (ต.ค.60-ก.ย.61) กำไรสุทธิ 1,713 ล้านบาท สูงขึ้นกว่าปีงบประมาณ 60 ที่ทำผลกำไรสุทธิได้ 1,143 ล้านบาท คิดเป็น 49.86 % และย้อนหลังไปในปีงบประมาณ 59 ทำกำไรสุทธิได้ 572 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2561 มีกำไรสูงขึ้น 100 % ส่วนปีงบประมาณ 2562 ตั้งเป้ากำไรสุทธิไว้ 1,374 ล้านบาท ซึ่งผลประกอบการในไตรมาสแรก (ต.ค. – ธ.ค.61) ทำกำไรสุทธิเบื้องต้น 328 ล้านบาท