นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ดำเนิ
นการตามมาตรการ One Transport ปลอดฝุ่น PM2.5 ของกระทรวงคมนาคม เพื่อลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ในเขตพื้นที่กรุ
งเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ.62 เป็นต้นไป กรมฯ ขอความร่วมมื
อผู้ประกอบการขนส่งทั้งรถบรรทุ
กและรถโดยสารทั่วประเทศ นำรถเข้ารับการตรวจสภาพก่อนถึ
งกำหนดรอบชำระภาษีรถ เพื่อตรวจสอบประสิทธิ
ภาพการทำงานของเครื่องยนต์ป้
องกันสาเหตุการเกิดควันดำและก่
อให้เกิดฝุ่นละออง PM2.5 โดยขอให้ผู้ประกอบการนำรถเข้
าตรวจสอบได้ที่สำนักงานขนส่งจั
งหวัดและสำนักงานขนส่งสาขาทั่
วประเทศ ซึ่งมาตรการนี้เป็นมาตรการเร่งด่วนที่
จะดำเนินการต่อเนื่องจนกว่าปั
ญหาฝุ่นละออง PM2.5 จะคลี่คลาย
นายพีระพล กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้สำนักงานขนส่
งจังหวัดทั่วประเทศตรวจวัดควั
นดำรถโดยสารสาธารณะและรถอื่นๆ ณ สถานีขนส่งผู้โดยสาร บนถนนสายต่างๆ ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ และเข้มงวดตรวจสอบการดำเนิ
นการของสถานตรวจสภาพรถ (ตรอ.) โดยได้สั่งการให้สำนักงานขนส่
งจังหวัดทั่วประเทศจัดส่งเจ้
าหน้าที่ลงสุ่มตรวจการดำเนิ
นการของสถานตรวจสภาพรถเอกชนในเข
ตพื้นที่ หากพบสถานตรวจสภาพรถใด ละเลยไม่ทำการตรวจสภาพรถให้เป็
นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด พิจารณาสั่งพักใช้หรือเพิ
กถอนใบอนุญาตประกอบการ สำหรับประชาชนที่พบเห็นรถบรรทุ
กและรถโดยสารมีควันดำ ให้จดจำรายละเอียดหมายเลขทะเบี
ยนรถ เลขข้างรถ แจ้งศูนย์คุ้มครองผู้
โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน โทร.1584 หากผลการตรวจสอบพบว่ารถมีควั
นดำตามที่ผู้ร้องเรียนได้แจ้
งมาจริงจะถูกดำเนิ
นการตามกฎหมายทันที
นายพีระพล กล่าวอีกว่า ส่วนผลการดำเนินการตรวจควั
นดำรถบรรทุ
กและรถโดยสารสาธารณะทั้งขาเข้
าและขาออก รวมทั้งบนมอเตอร์เวย์ขาเข้า ณ ด่านลาดกระบัง รวม 31 จุด ใน 15 จังหวัด เมื่อวันที่ 1-2 ก.พ.62 รวม 2 วัน พบว่าตรวจรถทั้งสิ้น 3,280 คัน พบรถควันดำทั้งสิ้น 130 คัน เป็นรถบรรทุก 113 คัน และเป็นรถโดยสาร 17 คัน ดำเนินการตามมาตรการอย่างเข้
มงวดทุกราย หากพบรถที่มีค่าควันดำเกินร้
อยละ 45 ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด สั่งเปรียบเทียบปรับ 5,000 บาท และ พ่น “ห้ามใช้” ทันที โดยจะไม่สามารถใช้งานรถได้จนกว่
าจะแก้ไขปัญหาเรียบร้
อยและนำรถเข้าตรวจสภาพที่สำนั
กงานขนส่งเท่านั้น ส่วนรถที่ตรวจพบค่าควันดำระหว่
างร้อยละ 30-45 ให้ผู้ตรวจการออกใบเตือนเพื่
อให้เจ้าของรถดำเนินการแก้ไขให้
ค่าควันดำลดลง