บลจ.ทาลิสลุยตราสารหนี้ ตั้งเป้าเอยูเอ็มหมื่นล้าน
เศรษฐกิจ
สำหรับภาพรวมระยะยาวของตลาดหุ้นไทยถูกขับเคลื่อนด้วยการเติบโตของกำไรของบริษัทจดทะเบียนเป็นหลัก โดยมองว่าจากนี้ไปอีก 10 ปี บริษัทจดทะเบียนของไทยจะสามารถทำกำไรเป็นสถิติใหม่เพิ่มขึ้นทุกปี สอดคล้องกับทิศทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ที่เชื่อว่าเริ่มเข้าสู่โหมดของการฟื้นตัวต่อเนื่อง ส่วนมุมมองระยะสั้นคาดว่าปีนี้ดัชนีตลาดหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวดีขึ้นจากปีที่ผ่านมา โดยมองเป้าหมายดัชนีสิ้นปีไว้ที่ระดับ 1,742 จุด ภายใต้คาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียนที่ 112.4 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็น EPS Growth ที่ระดับ 6% ซึ่งปัจจัยบวกสำคัญ ให้น้ำหนักกับการเลือกตั้งในประเทศ
ส่วนผลการเลือกตั้งต้องได้รัฐบาลที่มีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรจึงจะเป็นบวกต่อตลาดทุน รวมถึง การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน หากมีข้อสรุปว่าไม่มีการดำเนินมาตรการเพิ่มเติมก็ถือว่าเป็นบวกต่อตลาด และค่าเงินบาทแข็งค่า จากดุลบัญชีเดินสะพัดเป็นบวก จะส่งผลให้มีเงินไหลเข้าตลาดหุ้นไทย ในขณะที่ Valuation ของตลาดหุ้นปัจจุบันยังไม่แพง อย่างไรก็ตาม กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีคาดว่าจะอยู่ที่ 1,551-1,861 จุด
ด้านความเสี่ยงสำคัญที่นักลงทุนจะต้องติดตาม คือ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนขยายตัวรุนแรงขึ้น การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะจีน อัตราการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนในระดับต่ำ ราคาน้ำมัน หากอยู่ในระดับต่ำ จะส่งผลลบต่อกลุ่มพลังงาน แม้จะดีต่อเศรษฐกิจในภาพรวม การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของไทย ผลการเลือกตั้ง หากไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาล หรือไม่ได้รัฐบาลเสียงข้างมาก และ การไม่ต่ออายุการลดหย่อนภาษี ของกองทุนแอลทีเอฟหลังปี 62 เป็นต้น