ตั้งเป้าผู้โดยสารแอร์พอร์ตลิงค์ทะลุวันละ1แสน
เศรษฐกิจ
นายไพรินทร์ กล่าวต่อว่า ในการบริหารจัดการเดินรถนั้นทาง บริษัท รถไฟฟ้า จะดำเนินงานบริหารจัดการเดินรถ รถไฟฟ้าสายสีแดงทั้งหมดแบบเบ็ดเสร็จไม่ต้องขึ้นกับร.ฟ.ท. อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางบริษัทรถไฟฟ้าฯได้แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการบริหารจัดการเดินรถ รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งที่สามารถให้บริการเดินรถครบ9ขบวนมาเป็นเวลา1เดือนแล้ว โดยไม่มีปัญหา แสดงให้เห็นถึงการบริหารจัดการที่ได้มาตรฐาน ส่งผลให้มีผู้โดยสารมากถึง8.8หมื่นคนต่อวัน และได้ตั้งเป้าให้มีผู้โดยสารสูงถึง 1แสนคนต่อวัน โดยวางแผนปรับตารางเดินรถให้มีความถี่มากขึ้นจากทุก10นาทีต่อขบวน เป็นทุก8.30นาทีต่อขบวน โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่1 เม.ย.62 เป็นต้นไป ประกอบกับในอนาคตแอร์พอร์ตเรลลิ้งค์ยังจะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าฟ้าสายสีส้ม ซึ่งจะทำให้มีปริมาณผู้โดยสารเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ และเมื่อถึงเวลานั้นจะส่งผลให้มีรายได้สูงถึง3ล้านบาทต่อวัน
นายไพรินทร์ ยังกล่าวถึง ความคืบหน้าในการดำเนินการจัดตั้งกรมราง ว่า คมนาคมจะเร่งผลักดันให้เกิดการจัดตั้งกรมรางให้ได้ภายในรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งจะทำให้คมนาคมมีหน่วยงานที่กำกับด้านรางเกิดขึ้นเป็นประวัติศาสตร์ของประเทศไทย โดยกรมราง จะมีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแลกฎระเบียบที่เกี่ยวกับระบบรางทั้งหมด รวมถึงการกำหนดคุณสมบัติผู้ขับรถไฟและการออกใบอนุญาตให้กับผู้ขับรถไฟด้วย
ด้านนายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. (รฟท.) หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ กล่าวว่า มีความชัดเจนแล้วว่า บริษัทรถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. ต้องเป็นผู้รับผิดชอบบริหารรถไฟสายสีแดงช่วงรังสิต-บางซื่อ และรับความเสี่ยงการเดินรถทั้งหมด ดังนั้นจึงได้เตรียมความพร้อมในการทำงานตามผลการศึกษาของสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่ระบุว่า บริษัทฯต้องปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ และต้องเพิ่มจำนวนบุคลากรจาก500คนเป็น743คน โดยบริษัทฯจะได้รีบเงินทุนจดทะเบียนประมาณ3,500ล้านบาท สำหรับนำมาบริหารจัดการเดินรถให้เกิดประสิทธิภาพ ซึ่งทั้งหมดยังต้องดำเนินควบคู่ไปกับการบริหารจัดการเดินรถแอร์พอร์ต เรลลิงค์ไปจนกว่าจะโอนย้ายไปให้ผู้ชนะการประมูลโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง3สนามบิน(ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา)เสร็จเรียบร้อยในปี64