ข่าวพาณิชย์ใจแข็งไม่ลดเป้าส่งออก8% - kachon.com

พาณิชย์ใจแข็งไม่ลดเป้าส่งออก8%
เศรษฐกิจ

photodune-2043745-college-student-s
น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์  เปิดเผยในงานเสวนา “มองโลก มองไทย : ทิศทางส่งออกปี 2562”ว่า ในปี 62 กรมฯยังตั้งเป้าการส่งออกไทยขยายตัว 8% หรือคิดมูลค่าส่งออก 272,685 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เฉลี่ยเดือนละ  22,724 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าสำนักพยากรณ์เศรษฐกิจขององค์กรต่างๆจะปรับลดเป้าส่งออกในปีนี้ก็ตาม เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐ-จีน, ความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยน และอื่นๆ  เบื้องต้นในช่วงปลายเดือน ก.พ. นี้ เตรียมหารือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศ (สอท.) หอการค้าไทย และสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) ในการหามาตรการขับเคลื่อนการส่งออกเป็นรายตลาด

 
“แต่ละตลาดก็จะมีการผลักดันสินค้าที่โดดเด่น มีมูลค่าเพิ่ม และเป็นที่ต้องของผู้บริโภคให้มากขึ้น พร้อมกันนี้กรมยังจับมือกับภาคเอกชนในการผลักดันกลยุทธการตลาดให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและชุมชนเพื่อส่งออก เช่น ช่องทางออนไลน์ อย่างไรก็ตามในส่วนของเป้าส่งออกนั้นคงต้องหารือกับเอกชนกันอีกครั้งว่าทำได้หรือไม่ซึ่งคงต้องพิจารณากันอีกครั้งแต่ตอนนี้ยังคงเป้า 8%ก่อน”
 
น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า  กล่าวว่า การส่งออกไทยมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยและสร้างรายได้เข้าประเทศอย่างมากโดยในปี 58-60 รายได้ส่งออกคิดเป็นสัดส่วน 61.7%  ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)  แต่ปัญหาต่างๆที่เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจทั่วโลกทำให้ภาคการส่งออกไทยกำลังเผชิญความผันผวนและไม่แน่นอน ซึ่งหลายครั้งที่นโยบายทางการค้าถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการเจรจาต่อรองและดำเนินนโยบายด้านอื่น ๆ  ดังนั้นสำนักงานได้มีการหารือกับกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อเตรียมรับมือและเร่งปรับตัวในอนาคตเพื่อเสนอยุทธศาสตร์การค้าให้รัฐบาลพิจารณา



“ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมรับมือและเร่งปรับตัวต่อสถานการณ์ในวันข้างหน้าสนค. ในฐานะหน่วยงานวิชาการในการจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายและยุทธ์ศาสตร์การค้าเพื่อสร้างการเติบโตทางการค้าให้ทันต่อกระแสการเปลี่ยนแปลง จึงจัดสัมมนาครั้งนี้ขึ้นเพื่อร่วมหารือกับผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ ทั้งเศรษฐศาสตร์มหภาค การค้าระหว่างประเทศ ตลาดเงินและตลาดทุน ความมั่นคง และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ”