สคบ.แจ้งขายของออนไลน์ยอดเกิน1.8ล.ต้องรีบจดทะเบียน
เศรษฐกิจ
ขณะเดียวกันในกรณีที่ผู้ค้าออนไลน์ไปเช่าพื้นที่ในเว็บไซต์เพื่อตั้งวางขายสินค้าตัวเอง ที่เรียกว่า มาร์เก็ต เพลส ก็ต้องมาจดทะเบียน ตลาดแบบตรงเช่นกัน เพื่อเป็นการดูแลผู้บริโภคและเจ้าของสินค้าเอง เนื่องจาก สคบ.พบว่าเริ่มมีเจ้าของสินค้ามาร้องเรียนว่า ได้ไปเช่าพื้นที่เว็บไซต์ขายสินค้า และขายสินค้าได้แล้ว แต่ไม่ได้เงิน เพราะในเงื่อนไขการซื้อขาย จะให้ผู้ซื้อจะโอนเงินผ่านทางเว็บไซต์ ขณะที่เจ้าของสินค้าจะส่งสินค้าตรงไปยังผู้ซื้อเลย แต่ปรากฏว่าเว็บไซต์ที่รับเงินไว้ไม่ยอมโอนเงินให้กับเจ้าของสินค้า นอกจากนี้ สคบ.ตรวจพบด้วยว่า ปัจจุบันมีการขายสินค้าออนไลน์ที่ผิดกฎหมาย เช่น บารากู่ บุหรี่ไฟฟ้า จึงขอเตือนว่าการทำเช่นนี้มีโทษทางอาญา ซึ่งสคบ.จะเข้าไปดำเนินการด้วย
นายพิฆเนศ ต๊ะปวง รองเลขาสคบ. กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เมื่อวันที่ 8 ก.พ.62 ยังมีมติให้ดำเนินคดีกับผู้ประกอบธุรกิจด้านสินค้าและบริการทั่วไป (ธุรกิจบริการเสริมความงาม ธุรกิจดูแลผู้ป่วยผู้สูงอายุ ธุรกิจท่องเที่ยว รถยนต์ จำนวน 20 เรื่อง และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 15 เรื่อง ทั้งกรณีของบ้านจัดสรร และคอนโดมิเนียม ตกแต่ง – รับเหมาก่อสร้าง โดยที่ประชุมมอบหมายให้สคบ. หาทางประชาสัมพันธ์เรื่องต่างๆ ที่เป็นมติออกมาแล้วให้ประชาชนรับทราบ เพื่อเป็นข้อมูลป้องกันการถูกเอาเปรียบได้ในอนาคต