ข่าวขนส่งฯ เล็งเปิดเดินรถโดยสารเชื่อมสนามบิน 3 แห่งปีนี้ - kachon.com

นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า กรมฯ ดำเนินการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการให้บริการรถโดยสารสาธารณะสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลและนโยบาย One Transport ของกระทรวงคมนาคม เพื่อเชื่อมต่อทุกโหมดการเดินทางที่หลากหลาย โดยพัฒนารูปแบบการให้บริการรถโดยสารสาธารณะเชื่อมต่อสนามบินกับชุมชนและสถานีขนส่งของกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เปิดเส้นทางรถโดยสารประจำทางเชื่อมต่อสนามบินแล้ว 31 แห่งทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารสามารถเชื่อมต่อการเดินทางระหว่าง ตัวเมืองและสนามบิน และเชื่อมต่อสู่ระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ

นายพีระพล กล่าวต่อว่า ปัจจุบันมีรถโดยสารประจำทางให้บริการในสนามบิน ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, ดอนเมือง, หาดใหญ่ และท่าอากาศยานอู่ตะเภา เพื่อรองรับการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และบริการรถโดยสารในสนามบินในจังหวัดท่องเที่ยว ได้แก่ จ.เชียงใหม่, เชียงราย, ภูเก็ต, ตราด, ตาก, สุโขทัย สุราษฎร์ธานี,กระบี่, ชุมพร, ตรัง, นครศรีธรรมราช, นราธิวาส, ระนอง ประจวบคีรีขันธ์,พิษณุโลก, แม่ฮ่องสอน, อ.ปาย จ.ปาง, น่าน, แพร่, นครพนม, เลย, สกลนคร, ขอนแก่น, บุรีรัมย์, สมุย และ นครราชสีมา ส่วนอีก 3 จังหวัด ได้แก่ อุดรธานี, อุบลราชธานี และสนามบิน จ.ร้อยเอ็ด มีกำหนดเปิดให้บริการภายในปีนี้



นายพีระพล กล่าวอีกว่า ส่วนด้านระบบการขนส่งทางรางได้เปิดเส้นทางเดินรถสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์-โรงพยาบาลรามาธิบดี (ทางด่วน) เชื่อมต่อการเดินทางจากจุดจอดสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ จ.สมุทรปราการ มายังรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์สถานีหัวหมาก และเส้นทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ศาลายา-สถานีรถไฟฟ้าหมอชิต (ทางด่วน) เชื่อมต่อการเดินทางจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ จ.นครปฐม มายังสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที โดยใช้รถโดยสารมาตรฐานใหม่ ที่เอื้อต่อผู้พิการหรือผู้สูงอายุ รองรับระบบบัตรโดยสารอีเล็กทรอนิกส์ (อีทิคเก็ต) การใช้บริการของคนทุกกลุ่มได้อย่างเท่าเทียมทั้งผู้สูงอายุและผู้พิการ

นายพีระพล กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังได้ยกระดับรถโดยสารประจำทางมาตรฐานใหม่ ตามแผนปฏิรูประบบรถโดยสารประจำทางในกรุงเทพฯ และปริมณฑล นำรถโดยสารมาตรฐานใหม่ เป็นรถปรับอากาศ ชานต่ำ ขนาดมากกว่า 30 ที่นั่ง ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (เอ็นจีวี) ที่ออกแบบในลักษณะ Universal Design เน้นอำนวยความสะดวกให้ประชาชนทุกกลุ่มทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะผู้พิการและผู้สูงอายุ เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างเสมอภาคและเท่าเทียม ติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ได้แก่ ทางลาดสำหรับเข็นรถวีลแชร์ ปุ่มกดที่เอื้อต่อผู้พิการ และเทคโนโลยีทันสมัยเพื่อความปลอดภัย ติดตามพฤติกรรมคนขับรถผ่านระบบจีพีเอสแทร็กกิ้ง จอแสดงความเร็วสปีดมอนิเตอร์ ติดตั้งกล้องวงจรปิดซีซีทีวีมาให้บริการ และในอนาคตเตรียมผลักดันการนำระบบขนส่งสาธารณะที่ใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ให้มากขึ้น อาทิ รถใช้ก๊าซธรรมชาติ รถไฮบริด และรถพลังงานไฟฟ้า