น.ท.สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภู
มิ เปิดเผยว่า ปัจจุบันท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
รองรับปริมาณผู้โดยสารเฉลี่ย 2 แสนคนต่อวัน ซึ่งถือว่าเกินขีดความสามารถที่
รองรับได้ ซึ่งอยู่ที่ 1.6 แสนคนต่อวัน โดยส่วนตัวเห็นว่าท่าอากาศยานสุ
วรรณภูมิ มีความจำเป็นที่จะต้องเร่งสร้
างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่เพิ่ม เพื่อรองรับปริมาณผู้โดยสารที่
เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าในปีนี้สนามบินสุ
วรรณภูมิจะมีตัวเลขปริมาณผู้
โดยสารสูงถึง 70 ล้านคน ดังนั้นแผนการดำเนินโครงการก่
อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 และโครงการก่อสร้างทางวิ่ง (รันเวย์) ที่ 3 และแผนการขยายอาคารผู้โดยสารหลั
งที่ 1 ฝั่งทิศตะวันตก ถือว่ามีเหมาะสมอย่างมาก
น.ท.สุธีรวัฒน์ กล่าวต่อว่า สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางเข้
ามาใช้บริการในท่าอากาศยานสุ
วรรณภูมิ 80% เป็นผู้โดยสารเดินทางระหว่
างประเทศ ดังนั้นแผนการขยายอาคารฝั่งทิ
ศตะวันตกจึงเหมาะสมมากกว่
าการขยายอาคารฝั่งทิศตะวันออก เพราะฝั่งทิศตะวันตกเป็นจุ
ดจอดของเที่ยวบินระหว่างประเทศ ขณะที่อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ก็มีความจำเป็นมากเช่นกัน เพราะจะช่วยเพิ่มการรองรับปริ
มาณผู้โดยสารได้อีก 30 ล้านคนต่อปี ซึ่งจะเพียงพอต่อสภาวะปริมาณผู้
โดยสารที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ที่สำคัญหากจะต้องขยายอาคารฝั่
งทิศตะวันออกก่อน คิดว่าไม่คุ้มค่า เพราะต้องปรับโครงสร้
างอาคารใหม่ ใช้งบประมาณอีกกว่า 1 พันล้านบาท เนื่องจากอาคารค่อนข้างเก่า ใช้งานมานาน จึงยังไม่จำเป็นในช่วงเวลานี้ อีกทั้งหากมีการก่อสร้างยังจะส่
งผลกระทบกับผู้โดยสารที่เดิ
นทางเข้ามาใช้อาคาร เพราะเป็นส่วนแรกที่ผู้โดยสารต้
องเข้ามา และยังอยู่ตรงกับจุดเช็คอินด้วย
ด้านนายธีระ บัวศรี ประธานคณะกรรมการดำเนินงานธุรกิ
จการบินกรุงเทพ กล่าวว่า สายการบินในฐานะผู้ใช้บริการท่
าอากาศยานสุวรรณภูมิ เห็นว่าการก่อสร้างอาคารผู้
โดยสารหลังที่2 มีความจำเป็น และถือเป็นโอกาสของประเทศ แต่ทั้งหมดก็ต้องเป็นไปตามการพิ
จารณาความเหมาะสมของภาครัฐ