พาณิชย์ให้ความรู้เกษตรกรผู้ปลูกชา
เศรษฐกิจ
สำหรับการลงพื้นที่ครั้งนี้ เป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากการสัมมนาและลงพื้นที่พบปะเกษตรกรและผู้ประกอบธุรกิจชา ณ จังหวัดเชียงราย เมื่อมิ.ย. 61 ทั้งนี้ ผลจากการลงพื้นที่ในครั้งดังกล่าว พบว่า เกษตรกรบางพื้นที่ยังขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องการผลิตชาให้ได้มาตรฐาน ขณะที่ผู้ประกอบการมีความต้องการชาคุณภาพจากเกษตรกร
นางอรมน กล่าวเสริมว่า ในปี 61 ไทยมีผลผลิตชาสดประมาณ 93,309 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 60ถึง 27.45% แบ่งเป็นชาอัสสัม 84,231 ตัน และชาจีน 9,078 ตัน ในปีเดียวกัน ไทยนำเข้าชา 11,639 ตัน จากประเทศ ส่วนใหญ่จากจีน เวียดนาม เมีนยมา ซึ่งภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ไทยลดภาษีนำเข้าใบชาจากอาเซียนเหลือ 0% แล้ว
สำหรับประเทศคู่เอฟทีเออื่นๆ เช่น จีน ไทยยังไม่ได้ลดภาษีใบชาให้กับจีน โดยเก็บอัตราภาษีนำเข้าชาจากจีนเท่ากับประเทศสมาชิกองค์การการค้าโลก อื่นๆ คือ อัตราภาษีในโควตา 30% ในปริมาณ 625 ตัน ต่อปี หากมีการนำเข้าเกินปริมาณโควตาดังกล่าว จะต้องเสียภาษีในอัตรา 90% ขณะที่ในส่วนของอัตราภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์ชา ไทยได้ยกเว้นการเก็บภาษีนำเข้ากับประเทศคู่เอฟทีเอ เช่น อาเซียนและจีนแล้ว และในทางกลับกัน จีน และอาเซียนก็ได้ยกเว้นการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าชาและผลิตภัณฑ์ให้กับไทยแล้วเช่นกัน ยกเว้นเมียนมาที่ยังมีการเก็บภาษีนำเข้าใบชาอยู่ที่ 5%
นอกจากนี้ในปี 60 ไทยยังส่งออกผลิตภัณฑ์ชาเป็นอันดับที่ 4 ของโลก รองจากแคนาดา สหรัฐอเมริกา และจีน โดยส่งออกเป็นปริมาณ 10,775 ตัน คิดเป็นมูลค่า 958 ล้านบาท