ข่าวพาณิชย์ให้ความรู้เกษตรกรผู้ปลูกชา - kachon.com

พาณิชย์ให้ความรู้เกษตรกรผู้ปลูกชา
เศรษฐกิจ

photodune-2043745-college-student-s
นางอรมน  ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ชาเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย ที่กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ให้ความสำคัญกับการใช้ประโยชน์และติดตามความพร้อมของเกษตรกรและผู้ประกอบการชา และผลิตภัณฑ์ชาของไทยในการเปิดตลาดภายใต้เอฟทีเอต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งกรมฯ ได้เตรียมจัดสัมมนาและลงพื้นที่พบปะเกษตรกรและผู้ประกอบการชา ระหว่างวันที่ 20 - 21 ก.พ. 62 ณ ไร่เชิญตะวัน จังหวัดเชียงราย
 
สำหรับการลงพื้นที่ครั้งนี้ เป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากการสัมมนาและลงพื้นที่พบปะเกษตรกรและผู้ประกอบธุรกิจชา ณ จังหวัดเชียงราย เมื่อมิ.ย. 61 ทั้งนี้ ผลจากการลงพื้นที่ในครั้งดังกล่าว พบว่า เกษตรกรบางพื้นที่ยังขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องการผลิตชาให้ได้มาตรฐาน ขณะที่ผู้ประกอบการมีความต้องการชาคุณภาพจากเกษตรกร
 
นางอรมน กล่าวเสริมว่า ในปี 61 ไทยมีผลผลิตชาสดประมาณ 93,309 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 60ถึง 27.45%  แบ่งเป็นชาอัสสัม 84,231 ตัน และชาจีน 9,078 ตัน   ในปีเดียวกัน ไทยนำเข้าชา 11,639 ตัน จากประเทศ  ส่วนใหญ่จากจีน เวียดนาม เมีนยมา  ซึ่งภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ไทยลดภาษีนำเข้าใบชาจากอาเซียนเหลือ 0%  แล้ว
 
 สำหรับประเทศคู่เอฟทีเออื่นๆ เช่น จีน ไทยยังไม่ได้ลดภาษีใบชาให้กับจีน โดยเก็บอัตราภาษีนำเข้าชาจากจีนเท่ากับประเทศสมาชิกองค์การการค้าโลก  อื่นๆ คือ อัตราภาษีในโควตา 30% ในปริมาณ 625 ตัน ต่อปี หากมีการนำเข้าเกินปริมาณโควตาดังกล่าว จะต้องเสียภาษีในอัตรา 90%  ขณะที่ในส่วนของอัตราภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์ชา ไทยได้ยกเว้นการเก็บภาษีนำเข้ากับประเทศคู่เอฟทีเอ เช่น อาเซียนและจีนแล้ว และในทางกลับกัน จีน และอาเซียนก็ได้ยกเว้นการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าชาและผลิตภัณฑ์ให้กับไทยแล้วเช่นกัน  ยกเว้นเมียนมาที่ยังมีการเก็บภาษีนำเข้าใบชาอยู่ที่ 5%
 
นอกจากนี้ในปี 60 ไทยยังส่งออกผลิตภัณฑ์ชาเป็นอันดับที่ 4 ของโลก รองจากแคนาดา สหรัฐอเมริกา และจีน โดยส่งออกเป็นปริมาณ 10,775 ตัน คิดเป็นมูลค่า 958 ล้านบาท