ข่าววันนี้ปล่อยรถเมล์เอ็นจีวีใหม่อีก 40 คันวิ่งสู่ถนน - kachon.com

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ที่สถานีเติมน้ำมัน ปตท.เอ็นจีวีเอเซียมีนบุรี ปากซอยรามคำแหง 180 นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ และรักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) รับมอบรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (เอ็นจีวี) จำนวน 40 คัน จาก ดร.ฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทสแกนอินเตอร์จำกัด (มหาชน) ภายใต้กลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ส่งมอบและนำรถให้บริการแล้ว 300 คัน จากทั้งหมด 489 คัน เหลืออีก 189 คัน ซึ่งได้แบ่งส่งมอบครั้งนี้ 40 คัน ทั้งนี้ได้ทดสอบคุณภาพรถเมล์เอ็นจีวี ที่ช่วยลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนที่ใช้บริการรถเมล์ด้วย

นายประยูร เปิดเผยว่า สำหรับรถเมล์ที่รับมอบ 40 คันจะนำมาวิ่งเขตการเดินรถที่ 2 จำนวน 20 คัน ได้แก่ สาย 60 สวนสยาม-ปากคลองตลาด 10 คัน และ สาย 514 มีนบุรี-สีลม 10 คัน และ เขตการเดินรถที่ 5 จำนวน 20 คัน ได้แก่ สาย 76 แสมดำ-ประตูน้ำ 15 คัน, สาย 140 แสมดำ-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 2 คัน และ สาย 141 แสมดำ-จุฬาฯ 3 คัน หลังจากนี้จะรับมอบรถอีก 60 คัน วันที่ 28 ก.พ. และ อีก 89 วันที่ 12 มี.ค. ทำให้ครบทั้ง 489 คัน ส่วนผลตอบรับรถเมล์ใหม่ได้รับกระแสตอบรับดี เพราะเป็นรถรุ่นใหม่และมีสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ จีพีเอส และกล้องวงจรปิด (ซีซีทีวี) รวมทั้งช่วยลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ด้วย เพราะตอนนี้ ขสมก. ได้เข้มงวดตรวจควันดำทุกคันพบค่าเฉลี่ยประมาณ 10-20% ไม่เกินค่ามาตรฐานของกรมควบคุมมลพิษกำหนด 45% ทั้งนี้ระหว่างการส่งมอบได้มีการตรวจควันดำ จากรถเมล์เอ็นจีวีพบว่า ค่าควันดำเฉลี่ยเพียง 3-4% ต่อคัน ซึ่งน้อยกว่ารถเมล์ดีเซลค่อนข้างมาก



นายประยูร กล่าวต่อว่า ส่วนแผนจัดหารถเมล์ตามแผนฟื้นฟูองค์กร 2,188 คัน วงเงิน 12,091 ล้านบาท ตอนนี้กระทรวงคมนาคมได้ส่งแผนให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รวบรวมความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะเข้าบอร์ด สศช. ต้น มี.ค. นี้จากนั้นจะส่งกลับมาที่กระทรวงคมนาคม เพื่อเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ปลายเดือน มี.ค.-ต้นเดือน เม.ย.62 จากนั้น ขสมก. จะเร่งรัดเช่ารถเมล์ 700 คันก่อน แบ่งเป็นรถเมล์เอ็นจีวี 300 คัน รถเมล์ไฮบริด 400 คัน อยู่ระหว่างทำร่างขอบเขตการประกวดราคา (ทีโออาร์) และทำประชาพิจารณ์ คาดว่าดำเนินการได้ในปี 62-63 ส่วนซื้อรถเมล์ไฮบริด 1,453 คัน และจัดซื้อรถเมล์ไฟฟ้า (อีวี) 35 คัน ซึ่งจะมีสถานีชาร์จ 1 แห่งคือที่อู่สวนสยาม ซึ่งดำเนินการ 10 กว่าเดือน คาดว่าจะได้รับรถปลายปี 63 จากนั้นทยอยปลดระวางรถเมล์เก่าที่ใช้น้ำมันดีเซล 2,075 คัน ที่มีอายุใช้งานเกือบ 30 ปี สำหรับรถที่ปลดระวางบางส่วนถ้ายังมีสภาพดีจะบริจาคให้หน่วยงานภาครัฐ อาทิ เทศบาล องค์การบริการส่วนตำบล (อบต.) และโรงเรียน ไปใช้ประโยชน์ต่อไป ส่วนรถที่มีสภาพไม่ดีต้องขายเป็นเศษเหล็ก



ด้าน ดร.ฤทธี กล่าวว่า ได้ส่งมอบรถเมล์ไปแล้ว 300 คัน และได้รับเงินแล้ว 1,300 ล้านบาท ส่วนอีก 189 คัน นั้นต้องส่งครบภายใน 12 มี.ค. หลังจากนั้นถึงจะได้รับเงินภายใน 30 วัน อนาคตบริษัทยังสนใจเข้าร่วมประมูลโครงการจัดเช่ารถเมล์ของ ขสมก. 700 คันระยะเวลา 7 ปี อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อม ซึ่งความยากคือทีโออาร์ได้กำหนดว่ารถต้องประกอบในประเทศไม่ต่ำกว่า 50% โดยเฉพาะชิ้นส่วนวัสดุที่ไทยผลิตได้ เช่น กระจก เบาะ ตัวถัง และอุปกรณ์ความปลอดภัย เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์และส่งเสริมการจ้างงานในไทย

ดร.ฤทธี กล่าวต่อว่า ซึ่งเตรียมลงทุนสำหรับจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ไว้ 3,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างหารือกับหุ้นส่วนทั้งในไทยและต่างประเทศ เตรียมเช่าโรงงานประกอบรถภายในประเทศ รองรับผลิตรถเมล์ รถมินิบัส และรถร่วม ขสมก. ในอนาคต และอาจส่งออกรถขายต่างประเทศด้วย ซึ่งโรงงานนี้จะมีระบบบริหารจัดการได้มาตรฐานทัดเทียมกับต่างประเทศ เพราะโรงงานประกอบรถเมล์ในไทยปัจจุบันมีโรงงานอยู่ที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรีแห่งเดียว และไม่เพียงพอต่อการผลิตรถ คาดว่าจะใช้วงเงินลงทุนน้อยที่สุด ส่วนรูปแบบการดำเนินการ ทั้งจัดหาพื้นที่ จำนวนพื้นที่ และวงเงินต้องพิจารณาก่อน