ส่งออกเดือนม.ค.ติดลบ 5.65%
เศรษฐกิจ

น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ยอดการส่งออกเดือนม.ค. 62 มีมูลค่า 18,994 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (616,104 ล้านบาท) ลดลง 5.65% เทียบกับม.ค. 61 ซึ่งเป็นการติดลบต่อเนื่อง 3 เดือน และติดลบครั้งแรกในรอบปีนี้ ส่วนนำเข้ามีมูลค่า 23,026 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13.99% ทำให้เดือนม.ค. 62 ไทยขาดดุลการค้า 4,032.4 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการขาดดุลการค้าสูงสุดในรอบ 7 ปี นับตั้งแต่เดือนม.ค. 56 ที่ไทยขาดดุลการค้า 5,916.2 ล้านดอลลาร์
ทั้งนี้สาเหตุที่ทำให้การส่งออกในเดือนม.ค.ที่ติดลบ 5.65% มาจาก ผลกระทบสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน (เทรดวอร์) ทำให้การส่งออกไทยในเดือนม.ค. 62 สูญเสียรายได้ 240.5 ล้านดอลลาร์, การแข็งค่าของเงินบาท และ ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง เป็นต้น โดยในวันที่ 25 ก.พ. นี้ทางกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้เชิญภาคเอกชน เช่น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, หอการค้าไทย, สภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย มาหารือสถานการณ์การส่งออกในไตรมาสที่1/62 รวมถึงการหารือด้านมาตรการและเรื่องเป้าส่งออกไทย

สำหรับด้านการขาดดุลการค้าไทยถือเป็นเรื่องที่ไม่กังวลใดๆ เพราะในเดือนม.ค. 62 พบว่าส่วนหนึ่งเป็นการตีมูลค่ามาจากการนำเข้าอาวุธยุทธปัจจัย 2,133 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 4,837.50% เนื่องจากมีการซ้อมรบระหว่างไทยและสหรัฐ และซ้อมรบไทยและญี่ปุ่น ซึ่งทั้งสองประเทศมีการนำเข้าอาวุธในการซ้อมรบเข้ามาเองเพื่อมาซ้อมในไทย และนำออกไปหลังจากเสร็จสิ้น ซึ่งจะถูกบันทึกในระบบการนำเข้าของศุลกากร
“ตลาดส่งออกไทยในเดือนม.ค.ที่สำคัญ พบว่า ตลาดจีนติดลบ 16.7% ตลาดอาเซียน 5 ประเทศ ลบ 7.4%ยุโรป ติดลบ 4.8% แต่ในส่วนของสหรัฐ กลับขยายตัวได้ 8.3% จากผลิตภัณฑ์ยาง อัญมณีฯ เหล็กกล้า รถยนต์และส่วนประกอบ เครื่องนุ่งห่ม รวมถึงญี่ปุ่น และซีแอลเอ็มวียังขยายตัวเป็นบวก”
ทั้งนี้สาเหตุที่ทำให้การส่งออกในเดือนม.ค.ที่ติดลบ 5.65% มาจาก ผลกระทบสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน (เทรดวอร์) ทำให้การส่งออกไทยในเดือนม.ค. 62 สูญเสียรายได้ 240.5 ล้านดอลลาร์, การแข็งค่าของเงินบาท และ ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง เป็นต้น โดยในวันที่ 25 ก.พ. นี้ทางกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้เชิญภาคเอกชน เช่น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, หอการค้าไทย, สภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย มาหารือสถานการณ์การส่งออกในไตรมาสที่1/62 รวมถึงการหารือด้านมาตรการและเรื่องเป้าส่งออกไทย

สำหรับด้านการขาดดุลการค้าไทยถือเป็นเรื่องที่ไม่กังวลใดๆ เพราะในเดือนม.ค. 62 พบว่าส่วนหนึ่งเป็นการตีมูลค่ามาจากการนำเข้าอาวุธยุทธปัจจัย 2,133 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 4,837.50% เนื่องจากมีการซ้อมรบระหว่างไทยและสหรัฐ และซ้อมรบไทยและญี่ปุ่น ซึ่งทั้งสองประเทศมีการนำเข้าอาวุธในการซ้อมรบเข้ามาเองเพื่อมาซ้อมในไทย และนำออกไปหลังจากเสร็จสิ้น ซึ่งจะถูกบันทึกในระบบการนำเข้าของศุลกากร
“ตลาดส่งออกไทยในเดือนม.ค.ที่สำคัญ พบว่า ตลาดจีนติดลบ 16.7% ตลาดอาเซียน 5 ประเทศ ลบ 7.4%ยุโรป ติดลบ 4.8% แต่ในส่วนของสหรัฐ กลับขยายตัวได้ 8.3% จากผลิตภัณฑ์ยาง อัญมณีฯ เหล็กกล้า รถยนต์และส่วนประกอบ เครื่องนุ่งห่ม รวมถึงญี่ปุ่น และซีแอลเอ็มวียังขยายตัวเป็นบวก”