ข่าว'เป๊ปซี่'ชูกลยุทธ์ใหม่Music ดันตลาดหน้าร้อนเจาะกลุ่มวัยรุ่น - kachon.com

เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ที่เซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ เครื่องดื่มเป๊ปซี่ โดยบริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย)จำกัด ได้จัดแถลงข่าวเผยภาพรวมตลาดน้ำดำในประเทศไทย พร้อมแพลนรุกตลาดช่วงซัมเมอร์ โดยมี นายสมชัย เกตุชัยโกศล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท เป๊ปซี่โค เซอร์วิสเซสเอเชีย จำกัด และ นายจรณชัย ศัลยพงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบรรษัทสัมพันธ์ บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่ โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมให้ข้อมูล

นายสมชัย เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมาตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมในประเทศไทยมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 50,000 ล้านบาทและยังคงเติบโตต่อเนื่องด้วยเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ ในขณะที่เครื่องดื่มโคล่าหรือตลาดน้ำดำมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 35,000 ล้านบาท ซึ่งเป๊ปซี่ถือเป็นแบรนด์ที่มีอัตราการเติบโตของยอดขายที่สูงกว่าตลาดรวมและเป็นอันดับหนึ่งเหนือคู่แข่งทุกแบรนด์ โดยยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดน้ำดำอันดับหนึ่งในบรรจุภัณฑ์แบบไม่ต้องคืนขวดคือทั้งขวดพีอีทีและกระป๋อง ทั้งนี้ในปีนี้เราจะใช้แพลตฟอร์มใหม่ทางการตลาดภายใต้แนวคิด For The Love of it หรือ เต็มที่กับสิ่งที่ใช่ เพื่อสื่อสารกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้ออกไปใช้ชีวิตอย่างสนุกและเต็มที่กับสิ่งที่ชอบไม่ว่าจะกีฬา ดนตรีหรือสิ่งต่างๆ โดยเราหยิบเอาดนตรีมาทำเป็นแคมเปญที่ชื่อ "เป๊ปซี่ซ่า...สุดทุกดนตรี" เพื่อใช้ทำกิจกรรมการตลาดในช่วงหน้าร้อน เพราะดนตรีเป็นสื่อกลางที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ในวงกว้าง ซึ่งแคมเปญนี้เราจะใช้สื่อการตลาดหลากหลายและครอบครัวทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ใช้งบการตลาดถึง 250 ล้านบาท มีการดึงศิลปินแถวหน้าจองเมืองไทยมาเป็นพรีเซนเตอร์ ได้แก่ เดอะทอยส์ , กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่, บูมบูม แคชและจินตหรา พูนลาภ เพื่อเจาะกลุ่มตลาดในฝั่งภาคอีสานให้แข็งแกร่งมากขึ้น โดยมีการทำเพลง 'รอไร' ขึ้นมาใหม่เพื่อปลุกให้คนรุ่นใหม่ออกไปทำสิ่งที่รักโดยไม่ต้องรีรอ มีการเปิดแพ็คเกจจิ้งรุ่น 'เป๊ปซี่ มิวสิค ลิมิเต็ด เอดิชั่น' 4 ไลน์ดนตรีและมี QR Code ให้สแกนเพื่อร่วมเล่นเกมชิงรางวัลต่างๆ รวมมูลค่า 1 ล้านบาท และมีการจับมือกับแบรนด์ FILA ออกคอลเลคชั่นพิเศษทั้งเสื้อ กางเกงวอร์ม กระเป๋าฯลฯ มาให้ผู้บริโภคได้สะสมกัน



"จริงๆ เป๊ปซี่เราเติบโตในตลาดทุกปีอยู่แล้ว และในปีนี้เราจะเจาะกลุ่มตลาดให้มากขึ้น ยิ่งในช่วงหน้าร้อนอุณหภูมิจะร้อนมากขึ้น 2-3 องศา ก็จะยิ่งส่งผลให้ตลาดเครื่องดื่มขายดีมากและน่าจะผลักดันให้เกิดการเติบโตที่ดีด้วย ซึ่งเราได้มีการออกสินค้าที่น้ำตาลต่ำและไม่มีน้ำตาลสู่ตลาดเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่เน้นสุขภาพมากขึ้น ด้านแพลนสัดส่วนในปีนี้สำหรับสินค้ามีน้ำตาลจะยังคงเป็น 95% และไม่มีน้ำตาล 5% ซึ่งเราได้รับการตอบรับดีจากผู้บริโภคในส่วนของสินค้าไม่มีน้ำตาลเราก็หวังว่าปีนี้เราจะสามารถขยายและเพิ่มให้สินค้าไม่มีน้ำตาลเราโตขึ้นเป็น 10%" นายสมชัย กล่าว

ด้าน นายจรณชัย ศัลยพงษ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องภาษีน้ำตาลในตลาดเครื่องดื่มนั้น ถ้านับถึงเดือน ต.ค.นี้จะเป็น 2 ปีพอดี ซึ่งเราก็จ่ายภาษีครบถ้วน โดยเรามีแพลนในการบริหารเรื่องนี้ คือ เรามีจะเน้นสุขภาพของผู้บริโภคเป็นที่ตั้ง มีการให้ข้อมูลโภชนาการกับผู้บริโภค และมีการนำเสนอสินค้าน้ำตาลและไม่มีน้ำตาลมากขึ้นเพื่อตอบโจทย์คนรักสุขภาพ.