'ปลัดคลัง'เตือนหาเสียงอย่าเมามันขายฝัน-เงินมีจำกัด
เศรษฐกิจ
“ชาวบ้านสามารถประเมินได้เองว่านโยบายไหนเป็นภาระต่องบประมาณ และนโยบายนั้นจำเป็นต่อเราแค่ไหน ให้ถามตัวเองว่า เราอยากได้นโยบายนี้จริงหรือไม่ อย่างนโยบายแจกเงินแจกของ เช่น จะแจกหม้อหุงข้าว แต่คนยังไม่ข้าวกิน ซึ่งไม่ถูกต้อง ควรเลือกพรรคที่ทำนโยบายที่มีความจำเป็นจริงๆ ” นายประสงค์กล่าว
ทั้งนี้กระทรวงการคลังไม่มีความกังวลว่าพรรคการเมืองจะเข้ามาทำนโยบายใช้งบประมาณเกินความจำเป็น เนื่องจากมีพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วินัยการเงินการคลัง เป็นตัวช่วยให้การเงินการคลังของประเทศมีเสถียรภาพ เพราะกฎหมายจะกำหนดกรอบการใช้งบประมาณในแต่ละปีไว้อย่างชัดเจน เช่น กรณีการตั้งงบกลาง จะสามารถทำได้เท่าใด และต้องมีการตั้งชดใช้คืนเมื่อใด ซึ่งหากนำงบประมาณมาใช้กับนโยบายหาเสียงทั้งหมด ก็จะกระทบกับ การชำระหนี้ประเทศ งบรายจ่ายประจำ กระทบกับงบประมาณลงทุนในแต่ละปี ซึ่งเป็นเรื่องที่พรรคการเมืองจะทำแบบนั้นไม่ได้
นายประสงค์ กล่าวว่า เบื้องต้นในงบประมาณรายจ่ายประจำปี กำหนดให้มีวงเงินสำหรับการใช้จ่ายในโครงการต่างๆของรัฐบาล ประมาณ 2-3% ของกรอบงบประมาณรายจ่าย หรือคิดเป็นไม่เกิน 1 แสนล้านบาทต่อปีเท่านั้น เป็นวงเงินที่ไม่มาก รัฐบาลใหม่ก็ต้องตัดสินใจว่าจะทำเรื่องใดก่อน และคงทำทั้งหมดพร้อมกันไม่ได้ ส่วนในปี 63 มีการอนุมัติงบประมาณรายจ่ายไว้ทั้งหมดแล้ว หากรัฐบาลใหม่จะนำมาพิจารณาปรับกรอบใช้จ่ายในโครงการต่างๆใหม่ ก็ต้องเข้าสู่ชั้นกระบวนการพิจารณาตรวจสอบของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งไม่ใช่คิดดำเนินการก็ทำได้ทันที รวมถึงหากจะหาวิธีใช้เงินนอกงบประมาณก็ต้องผ่านการพิจารณาตรวจสอบจากฝ่ายค้าน