ข่าวกรุงไทยทุ่ม19,000 ล้านบาทยกเครื่องแบงก์ดิจิทัล - kachon.com

กรุงไทยทุ่ม19,000 ล้านบาทยกเครื่องแบงก์ดิจิทัล
เศรษฐกิจ

photodune-2043745-college-student-s
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย   เปิดเผยว่า  เตรียมทุ่มงบ 19,000 ล้านบาทในช่วง 5 ปีระหว่างปี 62-66 พัฒนาระบบสื่อสารเทคโนโลยีหรือไอที เพื่อก้าวไปสู่แบงก์ดิจิทัลเต็มรูปแบบ เพื่อรองรับพฤติกรรมลูกค้าในยุคดิจิตอล ด้วยการมุ่งพัฒนาการให้บริการ และผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า โดยปีนี้คาดว่ากำไรใกล้เคียงปีก่อนอยู่ที่  25,000-28,000 ล้านบาท  เพราะการยกเลิกค่าธรรมเนียมในปีที่ผ่านมาทำให้ปีนี้รับผลกระทบมาก ประกอบกับกฎระเบียบจากทางการส่งผลให้กำไรของธนาคารได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม  รายได้ทุก 1 ล้านบาทที่หายไป ธนาคารต้องลดต้นทุนให้ได้ 4-5 ล้านบาท  

ส่วนการปล่อยสินเชื่อปีนี้คาดว่าจะเติบโต 5% ตามการขยายตัวเศรษฐกิจไทย 4.1% จากปีก่อนสินเชื่อเติบโต 4.4%  เน้นสินเชื่อรายย่อยคาดว่าขยายตัว 6-7%และเจาะสินเชื่อเอสเอ็มอีมากขึ้น  พร้อมลดสัดส่วนสินเชื่อภาครัฐลง เพราะธนาคารมีต้นทุนทางการเงินสูงกว่าธนาคารของรัฐ   และเตรียมรุกธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ซึ่งอยู่ระหว่างเตรียมดำเนินการ พร้อมยอมรับว่าปัจจุบันสินเชื่อรถยนต์ใหม่มีการแข่งขันสูง ทำให้อัตรากำไร (มาร์จิ้น) ค่อนข้างต่ำ หากเร่งเกินไปอาจจะส่งผลกระทบต่อส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ของธนาคาร คาดว่าจะเปิดให้บริการสินเชื่อรถยนต์และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถไตรมาส 2/ 62  ด้านสินเชื่อรายใหญ่ ตั้งเป้าเติบโตเล็กน้อย เนื่องจากลูกค้ามีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนการขอสินเชื่อเป็นออกตราสารหนี้ และ ขอรีไฟแนนซ์ เนื่องจากดอกเบี้ยขาขึ้น โครงการขนาดใหญ่ที่จะมีการส่งมอบงาน ส่งผลให้บริษัทเอกชนชำระหนี้มากขึ้น โดยจะต้องติดตามสถานการณ์ทุก 3 เดือน 5 เดือน  เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน 

สำหรับเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่มีผลบังคับใช้วันที่ 1 เม.ย.นี้ จะส่งผลกระทบต่อการปล่อยสินเชื่อบ้านบ้าง แต่ธนาคารยังเดินหน้าในกลุ่มสินเชื่อบ้านอย่างระมัดระวัง โดยที่ไม่เร่งการขยายตัวมากจนเกินไป ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของธนาคารปีนี้ ตั้งเป้าที่จะลดให้ต่ำกว่า100,000 ล้านบาท จากปีก่อนอยุ่ที่ 102,000 ล้านบาท และคาดว่าจะตั้งสำรองใกล้เคียงกับปีก่อนหรืออาจจะลดลงเล็กน้อย จากปีก่อนตั้งสำรองไว้ที่ 26,000 ล้านบาทเพื่อรักษาอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio)  ให้อยู่ในระดับ 120-130% จากสิ้นปีก่อนที่อยู่ 125.81%

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของรายได้ค่าธรรมเนียมปีนี้จะเติบโต 2.5% จากปีก่อนหดตัวลง 1.5% จากการยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนเงินผ่านช่องทางดิจิทัล และ การขายผลิตภัณฑ์ในเครือ โดยเฉพาะประกันที่ชะลอตัวลง แต่ในปีนี้คาดว่า การขายประกัน และ กองทุน จะกลับมาเติบโตได้ดี  ส่วนด้านนโยบายสาขาธนาคารมีเป้าหมายภายใน 2 ปีจะมีการปรับลดสาขาให้อยู่ที่ 1,000 สาขา จากปัจจุบันอยู่ที่ 1,100 สาขา เพื่อทำให้ต้นทุนสาขาและพนักงานสอดคล้องกับอัตรากำลังที่เหมาะสม

ทั้งนี้แม้มีการปรับลดสาขาแต่จะไม่มีการปลดพนักงานออก   โดยจะปล่อยให้เป็นไปตามกลไกปกติ เช่น การเกษียณอายุตามปกติ การเกษียณอายุก่อนอายุ 60 ปี และการลาออกตามปกติ คาดภายในช่วง 2-3 ปี พนักงานจะอยู่ที่ 21,000 คน ลดลงจากปัจจุบันที่ 22,000 คน  สำหรับแอพพลิเคชั่น "Krungthai Next" ปัจจุบันธนาคารอยู่ระหว่างการปรับปรุงประสิทธิภาพและความสามารถรองรับปริมาณการทำธุรกรรมให้เพิ่มขึ้น โดยขณะนี้มีผู้ใช้บริการ 4 ล้านคนในเดือนม.ค.นี้ ตั้งเป้ามีผู้ใช้งานสิ้นปีนี้10 ล้านคน

ขณะเดียวกันได้ทยอยติดตั้งเครื่องตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชนอิเล็กทรอนิกส์เชื่อมข้อมูลกับทะเบียนราษฎร์ กระทรวงมหาดไทย สำหรับใช้ในการทำรายการต่างๆ ที่เคาน์เตอร์สาขาทั่วประเทศ  และนำระบบสแกนใบหน้ามาใช้ เพิ่มจากการติดตั้งกล้อง CCTV เดิม เพื่อยกระดับความปลอดภัยในการทำธุรกรรมการเงินและการบริการให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทุกสาขา รวมทั้งลดปัญหาการทุจริตในรูปแบบต่างๆ