เอกชนวิตกบาทแข็งค่าฉุดรายได้ส่งออกวูบ
เศรษฐกิจ
สำหรับการส่งออกปีนี้เน้นเจาะลึกลงไปในรายอุตสาหกรรม ทำให้ทราบจุดแข็ง-จุดอ่อนเป็นรายสินค้า เพื่อบุกตลาดแต่ละประเทศชัดเจนมากขึ้น เชื่อว่าจะได้ผลมากกว่าแผนเดิมที่ทำเป็นภาพรวม เช่น สิ่งทอ ต้องให้ความสำคัญกับวัตถุดิบใหม่ ๆ ขณะที่อัญมณีและเครื่องประดับ สามารถใช้การค้าออนไลน์เข้ามาช่วยรุกตลาด ส่วนสินค้าเกษตรและกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ อาจต้องใช้มาตรการรัฐเข้ามาช่วยสนับสนุน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะนำไปหารือร่วมกับกระทรวงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว
นายสนั่น อังอุบลกุล รองประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปีนี้ส่งออกคาดว่าขยายตัว 3-5% แม้เดือนแรกของปีจะติดลบแต่ในช่วงหลังของปีจะดีขึ้นเห็นได้จากปี 61 ที่ผ่านมาเอกชนมองว่าส่งออกจะโต 5% ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าไว้ 8% แต่สุดท้ายแล้วโต 6.7% โดยเชื่อว่าปีนี้ถ้าภาครัฐกับเอกชนทำงานใกล้ชิดกันมากขึ้นการส่งออกน่าจะเติบโตขึ้น แต่ที่กังวลคือการแข็งค่าของเงินบาทมากกว่าสกุลเงินอื่น ๆ จะกระทบรายได้จากการส่งออกในภาพรวม ซึ่งคาดว่าการส่งออกสินค้าเกษตรน่าจะเติบโตได้เพียง 1.4 % ส่วนสินค้าอุตสาหกรรมคาดว่าบวก 3%
นอกจากนี้ยังมีเรื่องพิจารณาปรับขึ้นค่าจ้างแรงงานที่กดดันให้ต้นทุนผู้ประกอบการสูงขึ้น และจากการหารือภาคเอกชนในแต่ละกลุ่มมั่นใจว่าปัญหาของสงครามการค้าสหรัฐกับจีนจะไม่กระทบต่อการค้าไทยมากนัก แต่จะเป็นการเสริมให้สินค้าไทยมีตลาดมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เอกชนต้องการให้หน่วยงานภาครัฐที่กำกับดูแลค่าเงินบาทเผื่อไม่ให้แข็งค่ามากเกินไปจนกระทบส่งออก