ตั้งสมาคมระบบรางไทย-เยอรมนี
เศรษฐกิจ
เมื่อวันที่ 25 มี.ค. นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะทำงานระบบราง-ไทย เยอรมนีว่า เยอมันถือว่าเป็นผู้นำทางด้านระบบรถไฟ จึงต้องมีเวทีในเรื่องการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีความรู้ทางราง อาทิ การจัดสัมมนา การจัดเวิร์กช็อป เพื่อนำผู้เชี่ยวชาญมาอธิบายให้คนไทยได้ฟัง เป็นหนึ่งในขั้นตอนของการถ่ายองค์ความรู้ในด้านเทคโลโนยี โดยมีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เป็นผู้ประสานซึ่งทามหาวิทยาลัยได้ส่งบุคลากรไปเรียนหนังสือ และเรียนรู้ด้านระบบราง เพื่อสร้างบุคลากร และให้ความรู้ทางด้านเทคโนโลยี ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมจัดตั้งสมาคมความร่วมมือระบบรางไทย-เยอรมนี ซึ่งเป็นองค์กรอิสระ ที่ไม่แสวงหาผลกำไรและไม่ใช่องค์กรของภาครัฐ
นายอาคม กล่าวต่อว่า โดยหลักๆ ผู้ก่อตั้งจะเป็นผู้เกี่ยวข้อง มีทั้งภาครัฐ เช่น กระทรวงคมนาคม และสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และภาคเอกชน ผู้ประกอบการที่ให้บริการด้านระบบราง ผู้ผลิต ซึ่งจะเป็นบริษัทจากประเทศเยอรมัน อย่าง ซีเมนส์ และ มหาวิทยาลัยต่างๆ โดยจัดตั้งสมาคมฯ ขึ้นเพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ถ่ายทอดเทคโนโลยีต่างๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากเพราะไทยได้เรียนรู้เทคโนโลยีระบบรางของเยอรมัน เช่น ซื้อรถไฟจากซีเมนต์แล้ว ทางบริษัทต้องมีการสอนขับรถไฟ และซ่อมบำรุงด้วย จากเดิมจะมีแค่บริษัทที่ซื้อรถไฟถ่ายทอดให้ แต่อนาคตจะมีหลายหน่วยงานอื่นเข้าร่วมถ่ายทอดกว้างมากขึ้น ไม่จำกัดเฉพาะบริษัทเดียว ขณะเดียวกันปัจจุบันอยู่ระหว่างประกาศจัดตั้งกรมการขนส่งทางราง ที่จะทำหน้าที่เป็นผู้กำกับดูแลด้านระบบราง กฎระเบียบและมาตรฐานต่างๆ โดยต้องมีมาตรฐานโลกหรือยุโรปเป็นตัวอ้างอิง คาดว่าสามารถจัดตั้งสมาคมฯ ได้อย่างเร็วภายในเดือน ต.ค. หรืออย่างช้าไม่เกินสิ้นปี 62
นายอาคม กล่าวอีกว่า นอกจากนี้จะมีสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง อยู่ขั้นตอนของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ซึ่งสถาบันนี้มีหน้าที่คุมแผนเทคโนโลยีทั้งหมด อาทิ สเปกรถ วิจัย และการต่อรถ ขณะที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะเป็นผู้วิจัยต่อ ทั้งนี้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมเรื่องรถไฟฟ้า ซึ่งเป็นความร่วมมือที่ญี่ปุ่นจะมาช่วยตั้งศูนย์ให้ เพื่อนำร่องจะใช้ด้วยกันหลายหน่วยงาน