ตลาดหุ้นไทยบวกแรงรับทรัมป์เลื่อนเก็บภาษีจีน
เศรษฐกิจ
Webmaster
2019-02-25 17:24:00
30
Webmaster
2019-02-25 17:24:00
30
-
สนับสนุนเนื่อหา
นายพบชัย ภัทราวิชญ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเชียพลัส เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,671.75 จุด บวก 12.55จุด หรือ 0.76 % ระหว่างวันเคลื่อนไหวสูงสุด 1,674.54 จุด และต่ำสุดที่ 1,664.92 จุด มูลค่าการซื้อขาย 56,660.77 ล้านบาทว่า ตลาดหุ้นไทยเปิดก้าวกระโดดดัชนีสามารถผ่านแนวต้านสำคัญ 1,665 จุดไปได้ และผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันทำให้หุ้นอยู่ในแดนบวกทั้งวันขานรับข่าวผลการเจรจาระหว่างสหรัฐฯและจีนมีทิศทางที่ดี ขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯประกาศเลื่อนเก็บภาษีจีนออกไปจากที่ขีดเส้นในเดือนมี.ค.นี้ ทำให้ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้บวก 5.6% ส่วนตลาดญี่่ปุ่นบวก 0.48% ไต้หวัน บวก0.66% ฮ่องกงบวก 0.5%
นอกจากนี้มีแรงซื้อหุ้นในกลุ่มขนาดใหญ่ ทั้งพลังงาน เนื่องจากน้ำมันปรับขึ้น ปิโตรเคมี สื่อสาร เช่น TRUE ค้าปลีก เช่น CPALL อสังหาริมทรัพย์ และแบงก์ทำให้ปิดตลาดหุ้นไทยบวกสดใส ส่วนแนวโน้มพรุ่งนี้น่าจะไปต่อ ประเมินแนวรับที่ 1,662 จุด แนวต้านที่ 1,680 จุด ประเด็นติดตามการประกาศผลประกอบการไตรมาส 4 ซึ่งสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้าย แนวโน้มต่ำกว่าที่คาดการณ์อาจมีการปรับลดประมาณการลงและปรับลดกำไร แต่ตลาดสะท้อนเรื่องดังกล่าวไปแล้ว ซึ่งนักลงทุนอาจมองการฟื้นตัวในช่วงไตรมาส 1
ขณะเดียวกันต้องติดตามการพบปะระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐและนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ในวันที่ 27-28 ก.พ. นี้ ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม และการเจรจาแบร็คซิท ส่วนในประเทศเป็นเรื่องการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญเรื่องยุบพรรคในวันที่ 27 ก.พ. ส่วนกลยุทธ์พรุ่งนี้น่าจะไปต่อ เน้นกลุ่มแลกการ์ด โดยเฉพาะพลังงาน แบงก์ รับเหมาก่อสร้างราคาเริ่มฟื้นตัว รวมถึงกลุ่มส่งออกอาหารและอิเลคทรอนิกส์ และเช่าซื้อลิสซิ่ง เนื่องจากค่าเงินบาทชะลอการแข็งค่า
นอกจากนี้มีแรงซื้อหุ้นในกลุ่มขนาดใหญ่ ทั้งพลังงาน เนื่องจากน้ำมันปรับขึ้น ปิโตรเคมี สื่อสาร เช่น TRUE ค้าปลีก เช่น CPALL อสังหาริมทรัพย์ และแบงก์ทำให้ปิดตลาดหุ้นไทยบวกสดใส ส่วนแนวโน้มพรุ่งนี้น่าจะไปต่อ ประเมินแนวรับที่ 1,662 จุด แนวต้านที่ 1,680 จุด ประเด็นติดตามการประกาศผลประกอบการไตรมาส 4 ซึ่งสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้าย แนวโน้มต่ำกว่าที่คาดการณ์อาจมีการปรับลดประมาณการลงและปรับลดกำไร แต่ตลาดสะท้อนเรื่องดังกล่าวไปแล้ว ซึ่งนักลงทุนอาจมองการฟื้นตัวในช่วงไตรมาส 1
ขณะเดียวกันต้องติดตามการพบปะระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐและนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ในวันที่ 27-28 ก.พ. นี้ ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม และการเจรจาแบร็คซิท ส่วนในประเทศเป็นเรื่องการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญเรื่องยุบพรรคในวันที่ 27 ก.พ. ส่วนกลยุทธ์พรุ่งนี้น่าจะไปต่อ เน้นกลุ่มแลกการ์ด โดยเฉพาะพลังงาน แบงก์ รับเหมาก่อสร้างราคาเริ่มฟื้นตัว รวมถึงกลุ่มส่งออกอาหารและอิเลคทรอนิกส์ และเช่าซื้อลิสซิ่ง เนื่องจากค่าเงินบาทชะลอการแข็งค่า
