อุตฯแจงพ.ร.บ.โรงงานใหม่เข้มงวดสิ่งแวดล้อม-ลดทุจริต
เศรษฐกิจ
ส่วนการดูแลด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย จะมีกฎหมายกำกับดูอยู่เช่นเดิม โดยให้ผู้ประกอบการโรงงานเป็นฝ่ายรับรองตนเอง ต้องแสดงข้อมูล เพื่อรับรองตนเองว่า การประกอบกิจการได้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย กำหนดให้แจ้งข้อมูลที่จำเป็นต่อการควบคุมกำกับดูแลทั้งด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมในแต่ละปี และจะมีเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือผู้ตรวจสอบเอกชนที่ขึ้นทะเบียนเจ้าหน้าที่ตรวจโรงงานกับกระทรวงอุตสาหกรรม ไปทำการตรวจภายหลังและเป็นผู้รับรองข้อเท็จจริงความถูกต้องอีกขั้นหนึ่ง เพื่อป้องกันการรับรองเท็จ
"กฏหมายที่ปรับปรุงใหม่ไม่ได้ทำให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานหลุดพ้นจากการควบคุม กำกับ ดูแล แต่อย่างใด เพียงแต่จะทำให้การประกอบกิจการลดภาระลงซึ่งเป็นผลดีต่อการประกอบกิจการในภาพรวม และที่สำคัญสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันที่กำหนดให้รัฐพึงใช้ระบบอนุญาตเท่าที่จำเป็น โดยส่งผลดี เพิ่มความสะดวกให้กับผู้ประกอบการ , เพิ่มประสิทธิภาพในการบริการ , ลดระยะเวลาการทำเรื่องขอใบอนุญาตแบบเดิม ,ลดปัญหาข้อร้องเรียนเรื่องความโปร่งใสในกระบวนการต่อใบอนุญาต ”
ส่วนกรณีการอนุญาตให้โรงงานเอกชนขนาดเล็กที่มีเครื่องจักรต่ำกว่า 50 แรงม้า และคนงานต่ำกว่า 50 คน ไม่ต้องขออนุญาตจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมอีกต่อไปนั้น เนื่องจากกระทรวงอุตสาหกรรมพิจารณาแล้วเห็นว่าโรงงานที่มีการใช้เครื่องจักรไม่เกิน 50 แรงม้า หรือใช้คนงานไม่เกิน 50 คน เป็นโรงงานขนาดเล็ก ประกอบกิจการไม่มีความซับซ้อน และไม่ได้ก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง ประกอบกับโรงงานขนาดดังกล่าวจะอยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายอื่นอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น กฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข กรณีเป็นกิจการที่อาจก่อให้เกิดเหตุเดือดร้อนรำคาญ หรือกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม กรณีที่การประกอบกิจการเป็นแห่งกำเนิดมลพิษ
“ โรงงานขนาดเล็กเราได้มีการถ่ายโอนภารกิจให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไปแล้วเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งกำกับดูแลตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข จึงสามารถกำกับดูแลโรงงานที่มีเครื่องจักรต่ำกว่า 50 แรงม้า หรือคนงานต่ำกว่า 50 คน ได้ทันที ”