กูรูมองหุ้นตลาดเกิดใหม่น่าลงทุนผลตอบแทนเด่น
เศรษฐกิจ
“ดัชนีหุ้นระหว่างวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้ปรับตัวขึ้นแรงรับข่าวสหรัฐฯ เลื่อนเส้นตายขึ้นภาษีจีนออกไปจากวันที่ 1 มี.ค. แต่ยังต้องจับตามองว่าการเลือกตั้งในประเทศที่จะเกิดขึ้นในเดือนมี.ค.นี้จะเป็นอย่างไร รัฐบาลผสมจะประกอบไปด้วยพรรคใดบ้างและใครจะได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรี และนโยบายรัฐบาลใหม่จะเป็นอย่างไร จะมีความต่อเนื่องหรือไม่
สำหรับปัจจัยบวกที่จะหนุนหุ้นไทยต่อไป คือ ข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนคาดว่าจะมีบทสรุปในไม่ช้า ส่วนปัจจัยลบระยะสั้นน่าจะเป็นเรื่องตัวเลขเศรษฐกิจและผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่มีแนวโน้มอาจจะอ่อนตัวลง เนื่องจากผลของสงครามการค้าและค่าเงินบาทที่แข็งค่า ส่วนการบริหารกองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 5M#4 (TEQT5M4) ถึงเป้าหมายในวันที่ 25 ก.พ. มีมูลค่าหน่วยลงทุนหรือ NAV เท่ากับ 10.5247 บาทต่อหน่วย ในระยะเวลาเพียง 1 เดือน 17 วัน นับจากวันที่ 9 ม.ค. 62 ซึ่งเป็นวันจัดตั้งกองทุน โดยถือเป็นกองทุนแรกที่เป็นไปตามเป้าหมายปีนี้ และเป็นทริกเกอร์ฟันด์ลำดับที่ 100 ที่บลจ.ทิสโก้สามารถบริหารให้ถึงเป้าหมาย จากทริกเกอร์ฟันด์หุ้นไทยและหุ้นต่างประเทศที่ออกโดย บลจ.ทิสโก้จำนวนทั้งหมด 129 กองทุน
ทั้งนี้ตั้งแต่ปี 51 จนถึงวันที่ 26 ก.พ. 62 บลจ.ทิสโก้ออกทริกเกอร์ฟันด์ที่ลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศทั้งหมด 129 กองทุน แบ่งเป็นกองทุนที่อยู่ในระหว่างกำหนดเวลาการลงทุน 2 กองทุน กองทุนที่ถึงเป้าหมายและเลิกโครงการแล้ว 100 กองทุนในจำนวนนี้ถึงเป้าหมายในกำหนดเวลาการลงทุน 72 กองทุนและถึงเป้าหมายนอกกำหนดเวลาการลงทุน 28 กองทุน ส่วนกองทุนที่ไม่ถึงเป้าหมายในกำหนดเวลาการลงทุน 27 กองทุนนั้น ยังอยู่ในระหว่างลงทุนเกินกว่ากำหนดเวลาการลงทุน 7 กองทุน ไม่ถึงเป้าหมายและเลิกกองทุนแล้ว 20 กองทุน
อย่างไรก็ตาม หน่วยลงทุน TEQT5M4 ได้สับเปลี่ยนไปยังกองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรระยะสั้น (TISCOSTF) โดยอัตโนมัติตามเงื่อนไขการเลิกกองทุนเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน