ทำใจ!!ซื้อตั๋วเครื่องบินต้องจ่ายค่าจอง
เศรษฐกิจ
นายจุฬา กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบข้อมูล พบว่า มีสายการบินขออนุญาตเก็บค่าธรรมเนียมการออกบัตรโดยสารมายัง กพท. แล้ว 6 สายการบิน ประกอบด้วย สายการบินไทย, สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส, สายการบินไทยไลอ้อนแอร์, สายการบินนกแอร์ สายการบินไทยแอร์เอเชีย และสายการบินไทยเวียตเจ็ท ปัจจุบัน กพท. อนุมัติให้ดำเนินการดังกล่าวแล้ว 5 สายการบิน เหลือเพียงสายการบินไทยเวียตเจ็ท ที่อยู่ระหว่างการพิจารณา โดยเสนอเพดานสูงสุดในการเรียกเก็บมาที่ 160 บาท อย่างไรก็ตามเวลานี้แม้ กพท. จะอนุมัติแล้ว แต่เบื้องต้นทราบว่ามี 3 สายการบิน คือ สายการบินไทย สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส และสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ ที่เริ่มเรียกเก็บจากผู้โดยสารแล้ว
นายจุฬา กล่าวอีกว่า ทุกวันนี้สายการบินส่วนใหญ่มีนโยบายเน้นลดต้นทุน เพิ่มรายได้ ดังนั้นการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมออกบัตรโดยสาร จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยลดต้นทุนในการดำเนินงานของสายการบินได้ ซึ่งรายละเอียด และอัตราค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากผู้โดยสารของแต่ละสายการบินก็จะแตกต่างกันไป เช่น สายการบินไทยหากจองผ่านเว็บไซต์ จะไม่เสียค่าธรรมเนียม หากจองผ่านเคาน์เตอร์ หรือคอลเซ็นเตอร์ ต้องเสียค่าธรรมเนียม เพราะสายการบินต้องเสียค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานเพิ่มมานั่งประจำเคาน์เตอร์ หรือพนักงานมานั่งรับโทรศัพท์ เป็นต้น ส่วนสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เสียค่าธรรมเนียมทุกช่องทาง อย่างไรก็ตามเชื่อว่าในยุคที่ธุรกิจการบินมีการแข่งขันสูง สายการบินคงต้องทำให้ผู้โดยสารได้รับผลกระทบน้อยที่สุด เพราะมิฉะนั้นแล้วหากเก็บในราคาที่สูงเกินไป ผู้โดยสารอาจหันไปใช้บริการสายการบินอื่นแทน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมออกบัตรโดยสารของแต่ละสายการบิน จะแตกต่างกันไป โดยสายการบินไทย กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมแต่ละเส้นทางไม่เท่ากัน เริ่มตั้งแต่คนละ 2 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 62 บาท สูงสุด 30 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 930 บาท ส่วนสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส หากจองบัตรโดยสารผ่านคอลเซ็นเตอร์ หรือสำนักงานขาย จะจัดเก็บคนละ 120 บาท แต่หากจองผ่านเว็บไซต์ หรือแอพพลิเคชั่น จัดเก็บคนละ 30 บาท ขณะที่สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ หากจองผ่านศูนย์บริการลูกค้าทางโทรศัพท์ ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมคนละ 107 บาทสำหรับเที่ยวบินในประเทศ และ 100 บาท สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ แต่หากจองผ่านเว็บไซต์ ไม่เก็บค่าธรรมเนียม.