ข่าวปั้นสาย 510 ต้นแบบรถเมล์ยุค 4.0 - kachon.com

นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานคณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 62 ที่ประชุมบอร์ดได้หารือแผนทดลองใช้โครงการนำร่องรูปแบบการให้บริการรถเมล์ ขสมก. แบบสมบูรณ์ ทั้งตัวรถ พนักงานงาน และการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ เพื่อเตรียมความพร้อมและยกระดับให้บริการของ ขสมก. ในอนาคต เบื้องต้นจะใช้รถเมล์ปรับอากาศ (รถเมล์แอร์) สาย 510 มธ.ศูนย์รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จำนวน 1 คันในการทดลอง เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวที่มีความพร้อมทั้งผู้โดยสารที่ส่วนใหญ่จะเป็นนักศึกษาที่มีความคุ้นชินกับการชำระค่าโดยสารแบบอิเล็กทรอนิกส์ มีผู้โดยสารใช้บริการจำนวนมากตั๋วโดยสาร 10,000 ใบต่อวัน ทั้งนี้ภายในรถติดตั้งระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (อีทิคเก็ต) เพื่อให้ผู้โดยสารที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้แตะชำระค่าโดยสารได้

นายณัฐชาติ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันจะติดคิวอาร์โค้ด และใช้เครื่องอ่านบัตรแบบมือถือ (Handheld) เพื่อรองรับชำระค่าโดยสารด้วยบัตรเครดิต บัตรเดบิต และบัตรรถเมล์ที่ ขสมก. จะร่วมกับธนาคารกรุงไทยผลิตขึ้น ซึ่งบัตรรถเมล์นี้จะคล้ายกับบัตรเครดิตสามารถเติมเงินในบัตรได้  โดยต้องการรือถึงรูปแบบการขายบัตร และโปรโมชั่นจูงใจให้ผู้โดยสารใช้บัตรด้วย เช่น บัตรมูลค่า 50 บาท จะขาย 40 บาท คาดว่าจะเริ่มนำร่องใช้งานเดือน เม.ย.-พ.ค. 62 โดยเดือน เม.ย. จะให้มีพนักงานเก็บค่าโดยสารไปก่อน  ส่วนเดือน พ.ค. จะไม่ใช้พนักงานเก็บค่าโดยสารต้องชำระค่าโดยสารด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น แต่อาจมีพนักงานช่วยให้คำแนะนำการใช้งาน จากนั้นจะประเมินผลความพึงพอใจของผู้โดยสาร ความสะดวกสบาย และการชำระค่าโดยสารด้วยระบบอีเล็กทรอนิกส์  เพื่อนำมาปรับให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้โดยสารต่อไป



นายณัฐชาติ กล่าวอีกว่า ส่วนแผนจัดหารถเมล์ตามแผนฟื้นฟูองค์กร 2,188 คัน วงเงิน 12,091 ล้านบาท ตอนนี้รอสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รวบรวมความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสรุปเข้าที่ประชุมบอร์ด สศช. ก่อน จากนั้นคาดว่าจะเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) มี.ค. 62 จากนั้น ขสมก. จะเร่งรัดเช่ารถเมล์ 700 คันก่อน แบ่งเป็นรถเมล์เอ็นจีวี 300 คัน รถเมล์ไฮบริด 400 คัน เตรียมนำร่างขอบเขตการประกวดราคา (ทีโออาร์) ขึ้นเว็บไซต์เพื่อประชาพิจารณ์อีก 1-2 สัปดาห์ หามีข้อคิดเห็นจะนำมาปรับปรุงและขึ้นเว็บประชาพิจารณ์อีกครั้งหนึ่ง

นายณัฐชาติ กล่าวด้วยว่า ขณะเดียวจะสืบหาข้อมูลราคากลางจากผู้ประกอบการ 4-5 ราย เพื่อมาตั้งเป็นราคากลางควบคู่ด้วย ก่อนเข้าสู่กระบวนการเปิดประกวดราคาอีเล็กทรอนิกส์ (อีบิดดิ้ง) คาดว่าช่วง ส.ค.62 จะได้ตัวเอกชนชนะประมูล และจะส่งมอบรถได้อย่างเร็วภายในปี 62 หรืออย่างช้าต้นปี 63 หลังจากนั้นจะเริ่มดำเนินการซื้อรถเมล์ไฮบริด 1,453 คัน และจัดซื้อรถเมล์ไฟฟ้า (อีวี) 35คัน อยู่ระหว่างร่างทีโออาร์ ส่วนความคืบหน้าโครงการเช่าอีทิคเก็ต และเครื่องเก็บค่าโดยสาร หรือกล่องเก็บค่าโดยสาร “แคชบ็อกซ์” (Cash box) บนรถเมล์ 2,600 คัน วงเงิน 1,665 ล้านบาท สัมปทาน 5 ปี โดยมีบริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) เป็นคู่สัญญานั้น เรื่องดังกล่าวยังไม่ได้ข้อยุติในแนวทางดำเนินการ และต้องใช้เวลาในการพิจารณาอย่างรอบคอบต่อไป