พาณิชย์จับมือเอกชนระบายผลไม้ช่วยเกษตรกร
เศรษฐกิจ
ทั้งนี้เนื่องจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์คาดการณ์ว่า ผลผลิตผลไม้ปีนี้จะออกสู่ตลาดมาก เมื่อเทียบกับปีก่อนที่เกิดภาวะแล้ง โดยกำหนดให้กระทรวงฯ คัดคุณภาพและบรรจุ
สินค้าผลไม้ 4 สินค้า ได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ และลำไย ส่งให้กับผู้ประกอบการเอกชนในปริมาณรวมไม่น้อยกว่า 3,000 ตัน คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 300 ล้านบาท
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้วางแนวทางผลักดันผลไม้ไทยบางส่วนไปจำหน่ายยังประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเป็นการเสริมทัพผลไม้ไทยในตลาดต่างประเทศให้ผู้บริโภคในประเทศเพื่อนบ้านได้รู้จักและมีโอกาสได้บริโภคผลไม้ไทยคุณภาพเพิ่มเติมอีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ คาดว่าแนวทางดังกล่าวจะส่งผลให้สามารถดูดซับผลผลิตออกจากแหล่งพื้นที่ผลิตได้ และส่งผลให้ระดับราคาผลไม้ที่เกษตรกรจำหน่ายได้มีเสถียรภาพ ซึ่งหากการดำเนินการดังกล่าวได้ผลดีจะดำเนินการขยายผลให้ครอบคลุมการซื้อขายผลไม้ชนิดอื่นๆ คือ ผลผลิตผลไม้ภาคเหนือ (ลำไย และลิ้นจี่) และภาคใต้ (ลองกอง) ซึ่งจะออกสู่ตลาดในช่วงเดือนก.ค. – ก.ย.นี้
" การดำเนินการดังกล่าวจะทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความพร้อมรับมือสถานการณ์ผลผลิตผลไม้ทุกรูปแบบ (Responsiveness) และ จะทำให้ผลไม้ของไทยยกระดับเป็นผลไม้คุณภาพ ผู้ประกอบการมีความเข้มแข็งสามารถเป็นกลไกหลักในการสนับสนุนอุตสาหกรรมผลไม้ได้ ซึ่งส่งผลให้เกษตรกร ผู้ประกอบการค้า ผู้ประกอบการแปรรูปและผู้ส่งออก ตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทานมีรายได้เพิ่มขึ้น เกิดการหมุนเวียนเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจของประเทศเพิ่มขึ้น และเป็นการสนับสนุนประเทศไทยในการก้าวสู่การเป็นมหาอำนาจด้านการค้าผลไม้เมืองร้อนของโลกตามยุทธศาสตร์การค้าผลไม้ครบวงจรต่อไป"