ข่าววินมอเตอร์ไซค์ขอขึ้นค่าโดยสาร 2กม.แรกเป็น30บาทหลังรายได้ต่ำ - kachon.com

วินมอเตอร์ไซค์ขอขึ้นค่าโดยสาร 2กม.แรกเป็น30บาทหลังรายได้ต่ำ
เศรษฐกิจ

photodune-2043745-college-student-s
นายธนวรรธน์ พลวิชัย รองอธิการบดีอาวุโสวิชาการและงานวิจัย และผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจ สถานภาพผู้ประกอบการรถจักรยานยนต์รับจ้างว่า ผู้ขับวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างส่วนใหญ่ ยังมีปัญหาเรื่องรายได้ต่ำ โดยพบว่ามีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 24,370.25 บาท แต่มีรายได้ที่แท้จริงเหลือเพียง 12,000 บาทต่อเดือนเท่านั้น เพราะส่วนที่เหลือต้องนำไปจ่ายค่าน้ำมัน ค่าผ่อนมอเตอร์ไซค์ รวมถึงค่าเช่า            เสื้อวินมอเตอร์ไซค์มากถึงเดือนละ 12,000 บาท ดังนั้นผู้ขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างจึงต้องการให้ภาครัฐขยับราคาค่าโดยสารขั้นต่ำจากปัจจุบัน 2 กม.แรก 25 บาทเพิ่มเป็น 30 บาทเพื่อให้เพียงพอต่อการดำรงชีพ

นอกจากนี้ ยังต้องการให้ภาครัฐเข้ามาช่วยควบคุมต้นทุนค่าน้ำมัน ค่าเช่าเสื้อวิน ค่าสินค้าทั่วไป เป็นต้น  รวมถึงจัดระเบียบและบทลงโทษผู้ขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ไม่ถูกกฎหมายอย่างเคร่งครัด และสนับสนุนให้มีโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำและเข้าถึงง่าย  ปล่อยกู้โดยไม่เสียดอกเบี้ย หรือลดอัตราดอกเบี้ย  เพิ่มสินเชื่อโดยไม่ต้องมีหลักประกัน  





นายมงคล ลีลาธรรม  กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือเอสเอ็มอี แบงก์ กล่าวว่า  ธนาคารจะนำผลสำรวจ และข้อเสนอแนะจากกลุ่มตัวอย่าง ไปพัฒนามาตรการช่วยเหลือ เช่น ส่งเสริมความรู้ให้นำแอปพลิเคชันมาเพิ่มลูกค้า รวมถึง ช่วยผู้ขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างลดต้นทุนค่าใช้จ่าย ขณะเดียวกันจะร่วมกับบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)  สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม  สถาบันยานยนต์ และสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ร่วมสนับสนุนการใช้นวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า  ยกระดับปรับเปลี่ยนรถ สำหรับผู้ประกอบอาชีพให้บริการรถขนส่งสาธารณะต่างๆ สร้างประโยชน์ช่วยลดต้นทุนค่าพลังงาน และช่วยลดมลภาวะทางอากาศ  

“ธพว.จะเร่งผลักดันผู้ประกอบการด้านขนส่งสาธารณะใช้นวัตกรรมอีวีเพื่อยกระดับอาชีพ  ผ่านโครงการสินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน   ระยะเวลากู้สูงสุด 7 ปี  บุคคลธรรมดา อัตราดอกเบี้ย 3ปีแรกเพียง 0.42% ต่อเดือน  วงเงินกู้สูงสุด 2 ล้านบาทต่อราย และหากยกระดับเป็นนิติบุคคล   อัตราดอกเบี้ยจะถูกลงไปอีก โดย 3 ปีแรกเหลือเพียง 0.25% ต่อเดือนเท่านั้น โดยสามารถใช้เป็นทุนหมุนเวียน ลงทุนนวัตกรรม  และปรับปรุงธุรกิจให้มีความทันสมัย”