ข่าวกรุงไทยเปิดกองทุนใหม่ ลุยตราสารทุนญี่ปุ่น - kachon.com

กรุงไทยเปิดกองทุนใหม่ ลุยตราสารทุนญี่ปุ่น
เศรษฐกิจ

photodune-2043745-college-student-s
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ  บลจ. กรุงไทย   เปิดเผยว่า  ได้เปิดจำหน่ายกองทุนเปิดเคแทม เจแปน อิควิตี้ พาสซีฟ ฟันด์ ( KT-JPFUND) เสนอขายครั้งแรกตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 8 มี.ค.นี้ เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน IShares Core Nikkei 225 ETF เพียงกองเดียว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80%  ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม โดยกองทุนรวมหลัก จะเน้นลงทุนในตราสารทุนในประเทศญี่ปุ่น ที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีนิคเคอิ 225 เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีนิคเคอิ 225 กำหนดลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท 

โดยจุดเด่นของกองทุน เน้นลงทุนให้ได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับดัชนีนิคเคอิ 225 ซึ่งเป็นหนึ่งในดัชนีตลาดหุ้นที่ได้รับความนิยมทั่วโลกมากกว่า 60 ปี ลงทุนขนาดใหญ่ในตลาดญี่ปุ่นประมาณ 225 ตัว ในหลากหลายอุตสาหกรรม มีการทบทวนหุ้นที่เป็นองค์ประกอบ ของดัชนี โดยพิจารณาจากสภาพคล่องในตลาด และความสมดุลของหมวดอุตสาหกรรม ทั้งนี้ การลงทุนผ่านกองทุน KT-JPFUND ทำให้ได้โอกาสของการลงทุนที่น่าสนใจ จากมูลค่าตลาดหุ้นที่ค่อนข้างถูกในประเทศญี่ปุ่น และผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นของแต่ละบริษัท โดยเฉลี่ยที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

สำหรับอัตราการเติบโตของจีดีพีในไตรมาส4 ของประเทศญี่ปุ่นเติบโต 0.3% จากอุปสงค์ในประเทศกลับมาขยายตัวทั้งหมดจากการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน รวมถึงอุปสงค์ต่างประเทศ ขณะที่การส่งออก และนำเข้าก็ฟื้นตัวไปในทิศทางที่ดี ทั้งนี้บลูมเบิร์กคาดว่า ดัชนี นิคเคอิ 225 ในปี 63  ขึ้นไป น่าจะมีโอกาส อยู่ที่ 40,000 จุด เนื่องจากอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นหรืออาร์โออีมีค่าสูงขึ้นจากศักยภาพการสร้างผลผลิตที่สูงขึ้น ผ่านการลงทุน (Capex ) และการทำวิจัยและพัฒนาที่สูงขึ้น ( R&D) การลดภาษีธุรกิจ และการผ่อนคลายกฎเกณฑ์ รวมถึงสภาพแวดล้อมของธุรกิจในญี่ปุ่นเริ่มสนับสนุนผู้ถือหุ้นมากขึ้น การเติบโตของเงินทุนเริ่มกลับมา

นอกจากนี้ บริษัทในญี่ปุ่นถือเงินสดมากกว่าค่าเฉลี่ยของโลก สามารถสร้างเงินสดได้มากกว่าการใช้เงินสดของตัวเอง และเงินสดจำนวนมากจะช่วยสนับสนุนการทำ Capex / R&D รวมถึงเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น  ส่วนผลการดำเนินงานของกองทุนรวมหลัก ณ วันที่ 31 ธ.ค.61 ในปี 61  อยู่ที่ -10.47 % ในปี 60 อยู่ที่ 21.09% ในปี 59  อยู่ที่ 2.20% และในปี 58  อยู่ที่ 10.78% ซึ่งสูงกว่าเมื่อเทียบกับ Benchmark (ดัชนีอ้างอิง Nikkei 225 ) ในปี  61 อยู่ที่ -12.08% ในปี 60  อยู่ที่ 19.10% ในปี 59  อยู่ที่ 0.42% และในปี 58 อยู่ที่ 9.07%