กรุงไทยเปิดกองทุนใหม่ ลุยตราสารทุนญี่ปุ่น
เศรษฐกิจ
โดยจุดเด่นของกองทุน เน้นลงทุนให้ได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับดัชนีนิคเคอิ 225 ซึ่งเป็นหนึ่งในดัชนีตลาดหุ้นที่ได้รับความนิยมทั่วโลกมากกว่า 60 ปี ลงทุนขนาดใหญ่ในตลาดญี่ปุ่นประมาณ 225 ตัว ในหลากหลายอุตสาหกรรม มีการทบทวนหุ้นที่เป็นองค์ประกอบ ของดัชนี โดยพิจารณาจากสภาพคล่องในตลาด และความสมดุลของหมวดอุตสาหกรรม ทั้งนี้ การลงทุนผ่านกองทุน KT-JPFUND ทำให้ได้โอกาสของการลงทุนที่น่าสนใจ จากมูลค่าตลาดหุ้นที่ค่อนข้างถูกในประเทศญี่ปุ่น และผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นของแต่ละบริษัท โดยเฉลี่ยที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
สำหรับอัตราการเติบโตของจีดีพีในไตรมาส4 ของประเทศญี่ปุ่นเติบโต 0.3% จากอุปสงค์ในประเทศกลับมาขยายตัวทั้งหมดจากการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน รวมถึงอุปสงค์ต่างประเทศ ขณะที่การส่งออก และนำเข้าก็ฟื้นตัวไปในทิศทางที่ดี ทั้งนี้บลูมเบิร์กคาดว่า ดัชนี นิคเคอิ 225 ในปี 63 ขึ้นไป น่าจะมีโอกาส อยู่ที่ 40,000 จุด เนื่องจากอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นหรืออาร์โออีมีค่าสูงขึ้นจากศักยภาพการสร้างผลผลิตที่สูงขึ้น ผ่านการลงทุน (Capex ) และการทำวิจัยและพัฒนาที่สูงขึ้น ( R&D) การลดภาษีธุรกิจ และการผ่อนคลายกฎเกณฑ์ รวมถึงสภาพแวดล้อมของธุรกิจในญี่ปุ่นเริ่มสนับสนุนผู้ถือหุ้นมากขึ้น การเติบโตของเงินทุนเริ่มกลับมา
นอกจากนี้ บริษัทในญี่ปุ่นถือเงินสดมากกว่าค่าเฉลี่ยของโลก สามารถสร้างเงินสดได้มากกว่าการใช้เงินสดของตัวเอง และเงินสดจำนวนมากจะช่วยสนับสนุนการทำ Capex / R&D รวมถึงเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น ส่วนผลการดำเนินงานของกองทุนรวมหลัก ณ วันที่ 31 ธ.ค.61 ในปี 61 อยู่ที่ -10.47 % ในปี 60 อยู่ที่ 21.09% ในปี 59 อยู่ที่ 2.20% และในปี 58 อยู่ที่ 10.78% ซึ่งสูงกว่าเมื่อเทียบกับ Benchmark (ดัชนีอ้างอิง Nikkei 225 ) ในปี 61 อยู่ที่ -12.08% ในปี 60 อยู่ที่ 19.10% ในปี 59 อยู่ที่ 0.42% และในปี 58 อยู่ที่ 9.07%