กสิกรไทยเปิดขาย3กองทุนตราสารหนี้ตปท.
เศรษฐกิจ
สำหรับกองทุน KFF3MBP ที่มีอายุโครงการ 3 เดือน กองทุน KFF6MGL ที่มีอายุโครงการ 6 เดือน และกองทุน KFF1YFY ที่มีอายุโครงการ 1 ปี เบื้องต้นคาดว่าจะเข้าไปลงทุนในเงินฝากแบงก์ออฟไชน่า และเงินฝาก Agricultural Bank of China รวมถึงจะลงทุนในเงินฝาก Commercial Bank of Qatar เงินฝาก Al Khalij Commercial Bank และบัตรเงินฝาก Qatar National Bank, ประเทศกาตาร์ นอกจากนี้ยังคาดว่าจะลงทุนในเงินฝาก Abu Dhabi Commercial Bank และเงินฝาก Union National Bank PJSC, ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเงินฝาก PT Bank Rakyat Indonesia, ประเทศอินโดนีเซีย อย่างไรก็ตาม ทั้ง 3 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน และสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งผู้ลงทุนสามารถลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำเพียง 500 บาท
ส่วนภาวะตลาดตราสารหนี้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นทุกช่วงอายุ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปี อยู่ที่ระดับ 2.56% และอายุ 10 ปี อยู่ที่ 2.76% ซึ่งธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณผ่อนคลายมากขึ้นต่อแนวทางการดำเนินนโยบายการเงิน (Dovish) โดยระบุจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างระมัดระวัง ขณะเดียวกันยังแสดงความพร้อมที่จะพิจารณาปรับเปลี่ยนนโยบายด้านงบดุลหากเศรษฐกิจชะลอมากกว่าคาด
ขณะที่ฝั่งเอเชีย ธนาคารกลางจีนยังคงเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงิน โดยประกาศปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 1% เพื่อมุ่งหวังอัดฉีดเงิน 8 แสนล้านหยวนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ส่วนค่าเงินเอเชียมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเนื่องจากปัจจัยบวกของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่เริ่มคลี่คลายลง
ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ยังได้เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนต่อเนื่องให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้แบบที่มีกำหนดอายุโครงการ (Term Fund) ซึ่งเมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ บริษัทจัดการจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 3 กองทุน คือ กองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ระยะสั้น (K-SF) ของบลจ.กสิกรไทย