ข่าวระดมสมองยื่นข้อเสนอรัฐบาลใหม่ดันศก.สุดลิ่ม - kachon.com

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) ประกอบด้วยส.อ.ท. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย  สมาคมธนาคารไทย   เปิดเผยว่า  กกร.ได้มอบให้ฝ่ายเลขาธิการ 3 สถาบัน รวบรวมข้อมูลด้านเศรษฐกิจของแต่ละหน่วยงาน นำมาระดมความคิดเห็น และรวบรวมเป็นข้อเสนอในนามกกร.  เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่จะมีทั้งด้านการค้า การลงทุน การบริโภค ยื่นเสนอให้รัฐบาลใหม่บริหารประเทศให้เดินไปข้างหน้าอย่างมีเสถียรภาพ  คาดว่า จะสรุปได้เสร็จภายในเดือนพ.ค.นี้

"ตอนนี้ทั้งส.อ.ท. และสภาหอฯ ต่างแยกกันทำข้อมูลยื่นสมุดปกครองให้พรรคการเมือง  ซึ่งทางกกร.มองว่า ควรทำร่วมกันในนามกกร.ด้วย จะเป็นข้อมูลของแต่หน่วยงานนำเสนอต่อรัฐบาลใหม่อย่างไร โดยส.อ.ท.ส่วนหนึ่งก็ได้รวบรวมข้อมูลแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อจัดทำข้อเสนอหรือสมุดปกขาวให้กับพรรคการเมืองแต่ละพรรคอยู่แล้ว โดยจะยื่นกับ 5 พรรคก่อนนำร่อง ได้แก่ พรรคพลังประชารัฐ เพื่อไทย ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย และอนาคตใหม่ ที่ส.อ.ท.เชิญมาในโอกาสประชุมสมาชิกส.อ.ท.ปี 62วันที่ 18 มี.ค.นี้"

ทั้งนี้กกร.ยังคงประมาณการการเติบโตผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี )ปี 62 ที่จีดีพีขยายตัว 4-4.3% ส่งออกขยายตัว 5-7% เงินเฟ้อ 0.8-1.2% โดยจะติดตามปัจจัยต่างๆ ใกล้ชิดทั้งทิศทางค่าเงินบาท และเศรษฐกิจโลกเพื่อประกอบการทบทวนตัวเลขทางเศรษฐกิจทั้งหมดอีกครั้งในการประชุมกกร.เดือนเม.ย.

สำหรับปัจจัยค่าเงินบาทภาคเอกชนและผู้ส่งออกมีความกังวลมากขึ้นเนื่องจากล่าสุดค่าเงินบาทกลับมาผันผวนอ่อนค่าลงมากสุดในภูมิภาคโดย 2 สัปดาห์มีการก่อนค่าถึง 2.4% จากก่อนหน้าแข็งค่าสุดเพราะเกิดจากการเก็งกำไรค่าเงินในภูมิภาคโดยล่าสุดแม้ว่าค่าเงินบาทจะกลับมาสู่ระดับ 31.80 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แต่ยังคงแข็งค่าพอสมควร ซึ่งเอกชนเห็นว่าอัตราค่าเงินไม่ควรจะอ่อนหรือแข็งค่าเกิน 0.5%

ส่วนภาวะเศรษฐกิจโลกนั้นยังคาดหวังว่าจะมีทิศทางที่ดีจากที่สหรัฐและจีนจะมีการเจรจาทางการค้าที่ล่าสุดมีแนวโน้มจะสามารถตกลงกันได้มากขึ้น เป็นต้น โดยปัจจัยภายนอกประเทศยอมรับว่ายังไม่ดีนักที่อาจเป็นผลลบต่อการส่งออกไทย แต่สัญญาณในประเทศดีกว่าส่งออกทั้งการบริโภค ท่องเที่ยวที่ยังมีแนวโน้มที่เติบโตได้ดังนั้นขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะปรับตัวเลขเศรษฐกิจไปในทิศทางที่บวกหรือลดลง