ข่าวก.ค.นี้เปิดใช้สายสีน้ำเงินหัวลำโพง–บางแค - kachon.com

ก.ค.นี้เปิดใช้สายสีน้ำเงินหัวลำโพง–บางแค
เศรษฐกิจ

photodune-2043745-college-student-s

เมื่อเวลา16.00น.วันที่11มี.ค.ที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม กล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินการ ของรฟม. โดยมีนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการ รฟม.และคณะผู้บริหาร รฟม.ให้การต้อนรับ
    
นายไพรินทร์ กล่าวว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงหัวลำโพง–บางแค ระยะทาง 5.4 กม. ประกอบด้วยสถานีใต้ดิน 4 สถานี มีกำหนดเปิดทดลองเดินรถอย่างเป็นทางการภายในเดือนเม.ย.หลังจากที่รับรถขบวนแรกมาแล้ว โดยภายในเดือนก.ค.ถึงเดือนส.ค.รฟม.จะเปิดให้ประชาชนทดสอบระบบนั่งรถไฟฟ้าฟรี  2 เดือน ก่อนเปิดให้บริการจริงและเก็บค่าโดยสารภายในเดือนก.ย. โดยค่าโดยสารมีอัตรา 16-42 บาท ส่วนช่วงเตาปูน–ท่าพระ ทางวิ่งยกระดับระยะทาง 21.5 กม. มี15 สถานี กำหนดเปิด มี.ค.63  ทั้งนี้หากเปิดให้บริการครบลูปรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินจะเทียบชั้นกับรถไฟฟ้ายามาโนเตะ ของรถไฟฟ้าประเทศญี่ปุ่นที่มีผู้โดยสารใช้บริการ 1ล้านคนต่อวัน สำหรับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินจากเดิมมีปริมาณผู้โดยสารใช้บริการ 360,000คนต่อวัน หากเปิดให้บริการส่วนต่อขยายครบจะทำให้ผู้โดยสารเพิ่มอีก400,000คนต่อวัน รวมทั้งสายเป็น 700,000คนต่อวัน  
  
 ด้าน นายภคพงศ์ กล่าวว่า สำหรับอัตราค่าโดยสารของสายสีน้ำเงิน รฟม.จะคิดอัตราค่าโดยสารสูงสุด 12 สถานี ถึงแม้ระยะทางจะยาวขึ้นทั้งหมด 38สถานี เนื่องจากหากคิดตามระยะทางจะเกินอัตราที่กำหนดไว้ เพราะสัญญาการเดินรถมีเงื่อนไขที่ระบุว่าจะต้องมีการพิจารณาค่าโดยสารทุกๆ2ปี โดยคิดจากตัวเลขดัชนีผู้บริโภคในปีนั้นๆ ส่วนความคืบหน้าการส่งมอบขบวนรถนั้นหลังจากที่รับมอบรถ 1 ขบวนแรก ในเดือนเม.ย.แล้วจะทยอยส่งมอบรถทุกเดือน จนครบ16 ขบวนในเดือนก.ย. หลังจากนั้นขบวนรถล็อต2 อีก19 ขบวนจะทยอยส่งมอบจนครบภายในมี.ค.63  ซึ่งจะครบทั้งหมด 35 ขบวน ดังนั้นหากมีการส่งมอบครบ และเปิดให้บริการครบ สายสีน้ำเงินจะมีรถรับผู้โดยสารทั้งหมด 54 ขบวน  ส่วนสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายบางแค-พุทธมณฑลสาย4 ระยะทาง 5กม. นั้นรฟม. ขอดูผลการตอบรับจากประชาชนก่อน หากผลตอบรับดีอาจให้เอกชนเป็นผู้ลงทุน 
    
นายภคพงศ์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าแผนลงทุนรถไฟฟ้าว่า ขณะนี้จะเร่งเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบโครงการก่อสร้างและงานระบบบริหารรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี งบประมาณ 2.35 แสนล้านบาท ภายในเดือนมี.ค.นี้ จากนั้นจะเสนอตามขั้นตอนการร่วมทุนพีพีพีก่อนเปิดเชิญชวนเอกชนซื้อซองทีโออาร์ในเดือน มิ.ย. เช่นเดียวกับรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ งบประมาณ 1.01 แสนล้านบาท ที่จะเร่งรัดเสนอครม.เช่นกัน ส่วนด้านรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลช่วงแคราย-ลำสาลี งบประมาณ  5 หมื่นล้านบาทนั้น จะเสนอครม.ในปี 64 ขณะที่โครงการรถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างก่อสร้างนั้น คือโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก ปัจจุบันคืบหน้า 25% ยังถือว่าเป็นไปตามแผน ส่วนด้านรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีชมพูและสายสีเหลืองนั้นมีความล่าช้าในการก่อสร้างเพราะติดปัญหาการใช้พื้นที่และรื้อย้ายสาธารณูปโภคในบางจุด อาทิ ถนนแจ้งวัฒนะ ถนนศรีนครินทร์และถนนบริเวณพื้นที่สำโรง จ.สมุทรปราการ
    
นายภคพงศ์ กล่าวอีกว่า รฟม.ได้ยกเลิกขั้นตอนการประมูลโครงการพัฒนาพื้นที่ท่าเรือพระนั่งเกล้าเพื่อเชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้า วงเงิน 90 ล้านบาท หลังจากที่ไม่มีเอกชนเข้ายื่นข้อเสนอ หลังจากนี้จะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด)เพื่อขอปรับเพิ่มวงเงินราคากลางก่อนเปิดประมูลใหม่ สำหรับแผนดังกล่าวนั้นจะมีการลงทุนก่อสร้างท่าเรือเพิ่ม 3 จุดควบคู่ไปกับอาคารที่พักผู้โดยสารเป็นจุดพักคอยเรือพร้อมระบบบริหารจัดการที่ทันสมัย ทั้งนี้แผนลงทุนนี้เป็นหนึ่งในนโยบายเชื่อมต่อการเดินทางแบบ ล้อ-ราง-เรือ โดยจะมีการลงทุนพัฒนาท่าเรือขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสำคัญอีก 3 แห่ง ได้แก่ 1.ท่าเรือ ปากเกร็ด เชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) 2. ท่าเรือบางโพ เชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (บางซื่อ- ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค) และ 3. ท่าเรือสาทร เชื่อมกับรถไฟฟ้าบีทีเอส ที่สถานีตากสิน
    
นายภคพงศ์กล่าวด้วยว่า ในส่วนของการดำเนินการพัฒนาปรับระบบบัตรให้เป็นเทคโนโลยีแบบ EMV นั้น คาดว่าจะใช้เวลาเกือบ 10 เดือนในการติดตั้งงานระบบและพัฒนาระบบศูนย์บริหารจัดการรายได้กลาง (Central Clearing House : CCH) ซึ่งคาดว่าภายในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปี 63 จะสามารถเปิดให้บริการในส่วนของบัตรแมงมุม 4.0 ได้ โดยวงเงินของการปรับปรุงหัวอ่านแบบ EMV นั้น ขั้นแรกจะใช้งบประมาณ 250 ล้านบาท และการพัฒนาระบบฯ CCH ที่ใช้งบประมาณเกือบ 400 ล้านบาท เนื่องจากทางธนาคารกรุงไทยจะต้องทำระบบเพิ่มในส่วนของระบบทางเดินทางอื่นๆเช่น ทางด่วน เรือ รถเมล์ รวมถึงระบบการเดินทางในต่างจังหวัดด้วย เพื่อให้สามารถแยกระบบการจัดเก็บรายได้ได้เร็วขึ้น ขณะที่บัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้นปัจจุบันได้มีการพัฒนาเป็นระบบ EMV ไปแล้ว