ข่าวส่งครบแล้วรถเมล์ล็อตสุดท้าย - kachon.com

ส่งครบแล้วรถเมล์ล็อตสุดท้าย
เศรษฐกิจ

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 12 มี.ค. ที่สถานีเติมน้ำมัน ปตท.เอ็นจีวีเอเซียมีนบุรี ปากซอยรามคำแหง 180 นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ และรักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) รับมอบรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (เอ็นจีวี) ล็อตสุดท้ายจำนวน 89 คัน จากที่ได้รับมอบและวิ่งให้บริการแล้ว 400 คัน ทำให้รับมอบครั้งนี้ครบทั้งหมด 489 คัน โดยมี ดร.ฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทสแกนอินเตอร์จำกัด (มหาชน) ภายใต้กลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO ที่มีบริษัทสแกนอินเตอร์ฯ และ บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) เป็นคู่สัญญาในการส่งมอบ
    
นายประยูร เปิดเผยว่า การรับรถเมล์ล็อตสุดท้าย 89 คัน จะนำมาวิ่งให้บริการในวันที่ 13 มี.ค. นี้ ในเส้นทางเขตการเดินรถที่ 1 จำนวน 29 คัน ได้แก่ สาย 59 รังสิต-สนามหลวง 9 คัน, สาย 129 บางเขน-สำโรง 2 คัน, สาย 510 มธ.ศูนย์รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 8 คัน, สาย 522 รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยฯ 5 คัน และ สาย A1 ดอนเมือง-หมอชิต 2 จำนวน 5 คัน, เขตการเดินรถที่ 2 จำนวน 30 คัน ได้แก่ สาย 26 มีนบุรี-อนุสาวรีย์ชัยฯ 15 คัน, สาย 60 สวนสยาม-ปากคลองตลาด 10 คัน และ สาย 514 มีนบุรี-สีลม 5 คัน, เขตการเดินรถที่ 3 จำนวน 20 คัน ได้แก่ สาย 142 ปากน้ำ-แสมดำ 10 คัน และ 511 ปากน้ำ-สายใต้ใหม่ 10 คัน และเขตการเดินรถที่ 5 จำนวน 10 คัน ได้แก่ สาย 140 แสมดำ-อนุสาวรีย์ชัยฯ 10 คัน
    
นายประยูร กล่าวต่อว่า หลังจากรับรถเอ็นจีวี 489 คันแล้ว ทำให้ ขสมก. มีรถเมล์ให้บริการประชาชนประมาณ 3,000 คัน ซึ่งเป็นตามแผน ขสมก. ที่มีรถทั้งหมด และจะทำให้ประชาชนมีความสะดวกสบาย ไม่ต้องรอคอยรถเมล์นาน ทั้งนี้จากการสอบถามความพึงพอใจของประชาชนเกือบ 100% ชอบ เพราะเป็นรถสมัยใหม่ ชานต่ำ รองรับผู้พิการใช้บริการสะดวก ไม่ต้องก้าวขึ้นบันไดเหมือนรถเมล์ชานสูงแบบเดิม รวมทั้งมีการติดกล้องวงจรปิด (ซีซีทีวี) ห้องโดยสารที่กว้างขวางขึ้น รวมทั้งเซนเซอร์นับจำนวนผู้โดยสารครบถ้วน ทั้งนี้ประชาชนต้องการให้ ขสมก. จัดหารถเมล์ใหม่มาให้บริการทุกเส้นทางและรวดเร็วขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับแผนจัดหารถเมล์ตามแผนฟื้นฟูองค์กรจำนวน 2,188 คัน วงเงิน 12,091 ล้านบาท ตซึ่งอยู่ระหว่างรอสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รวบรวมความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) คาดว่าปี 63-65 น่าจะทยอยนำรถเมล์ใหม่มาให้บริการได้
    
ด้าน ดร.ฤทธี กล่าวว่า หลังจากที่ ขสมก. จัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีมากว่า 10 ปี วันนี้มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ส่งมอบรถเมล์ครบ 489 คัน ตามสัญญา แม้ระหว่างดำเนินโครงการอาจมีข้อพิพาทบ้าง แต่ได้แก้ไขเรียบร้อย แสดงให้เห็นว่ามีความโปร่งใสในการส่งมอบ อย่างไรก็ตามสัญญากับ ขสมก.ยังเหลืออีก 10 ปีในการซ่อมบำรุง วงเงิน 2,300 ล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่าจะซ่อมบำรุงรถให้อยู่ในสภาพดีเยี่ยมพร้อมใช้งานตลอด 10 ปี ทั้งนี้บริษัทเป็นผู้ที่มีความพร้อมอันดับต้นๆ ในไทย และจากประสบการณ์ส่งมอบรถเมล์เอ็นจีวีก็จะเข้าร่วมประมูลโครงการจัดหารถเมล์ใหม่ของขสมก.ในอนาคต  อาทิ รถเมล์เอ็นจีวี รถเมล์ไฮบริด และรถเมล์ไฟฟ้า 
    
ส่วน น.ส.นันทิดา จิตภักดีรัตน์ กรรมการสมาคมสตรีพิการประเทศไทย และแอดมินเพจทูเกเตอร์ (ToGether) กล่าวว่า ตั้งแต่มีรถเมล์เอ็นจีวีมาให้บริการทำให้กล้าออกมาใช้ชีวิตปกติเหมือนประชาชนทั่วไป เพราะรถใหม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่รองรับผู้พิการ ซึ่งต่างจากรถเมล์ชานสูงขึ้นลงไม่สะดวก ปัจจุบันใช้บริการรถเมล์ในการเดินทางในชีวิตประจำวันแล้ว 8 เดือน ใช้ไม่ต่ำกว่า 3 วันต่อสัปดาห์ จากใช้บริการในภาพรวมถือว่าโอเค แต่พบปัญหาพบว่าเมื่อรถมาจอดเทียบป้ายรถเมล์บริเวณฟุตบาทจะมีสิ่งกีดขวางทางขึ้นรถเมล์อยู่ เช่น วินรถจักรยานยนต์ (จยย.) รับจ้าง และรถแท็กซี่ ทำให้ไม่สะดวกในการขึ้น และเสี่ยงเกิดอันตรายง่าย จึงต้องการให้จัดระเบียบตรงป้ายรถเมล์เป็นป้ายสำหรับคนที่รอใช้บริการรถเมล์จริงๆ รวมทั้งให้นำสายเข็มขัดนิรภัยมาล็อคที่ตัวด้วยจะสะดวกกว่า เพราะปกติใช้เข็มขัดล็อคที่พื้น ทำให้เสียเวลากับผู้โดยสารคนอื่น ทั้งนี้ขอเสนอแนะว่าจะทำอย่างไรให้พนักงานขับรถสามารถรับรู้ได้ว่าตรงป้ายรถเมล์มีผู้พิการรอใช้บริการอยู่ เพื่อเวลาที่รถมาจอดเทียบป้ายเข็นวีลแชร์จะขึ้นรถเมล์ได้ทันที รวมทั้งให้จัดอบรมพนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสารสำหรับให้บริการผู้พิการ เพื่ออำนวยความสะดวกและบริการได้ถูกวิธี.