ข่าวไฟเขียวปรับวงเงิน'บ้านล้านหลัง' ให้คนรายได้น้อยกู้ได้4หมื่นล. - kachon.com

ไฟเขียวปรับวงเงิน'บ้านล้านหลัง' ให้คนรายได้น้อยกู้ได้4หมื่นล.
เศรษฐกิจ

photodune-2043745-college-student-s
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบตามที่ธนาคารเสนอให้ปรับกรอบวงเงินกู้ของโครงการบ้านล้านหลังภายใต้กรอบวงเงินที่ ครม. ได้อนุมัติไว้เดิมจำนวน 50,000 ล้านบาท โดยเป็นการปรับเพิ่มวงเงินกู้สำหรับกลุ่มรายได้ไม่เกิน 25,000 บาท/คน/เดือน จากกรอบวงเงินกู้เดิมจำนวน 20,000 ล้านบาท เพิ่มเป็นจำนวน 40,000 ล้านบาท และปรับลดกรอบวงเงินกู้ สำหรับกลุ่มรายได้เกิน 25,000 บาท/คน/เดือน จากกรอบวงเงินกู้เดิม 30,000 ล้านบาท ลดเป็นจำนวน 10,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าประชาชนทั่วประเทศที่มาจองสิทธิสินเชื่อโครงการบ้านล้านหลัง รายละไม่เกิน 1 ล้านบาท เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2561 ซึ่งมีจำนวนเงินรวมสูงถึง 127,000 ล้านบาท โดยพบว่าเป็นกลุ่มผู้มีรายได้ไม่เกิน 25,000 บาท/คน/เดือน จำนวนถึง 113,000 ล้านบาท ขณะที่กลุ่มรายได้เกิน 25,000 บาท/คน/เดือน มีผู้มาจองสิทธิจำนวนเพียง 14,000 ล้านบาท




นอกจากนี้ยังขยายระยะเวลาสิ้นสุดการทำนิติกรรมจากเดิมที่กำหนดไว้ภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2562 ขยายเป็นจนกว่าธนาคารให้สินเชื่อเต็มกรอบวงเงินของโครงการ 50,000 ล้านบาท หรือภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2564 โดยภายหลังจากที่ธนาคารเริ่มเปิดรับคำขอกู้ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2562 ล่าสุด ณ วันที่ 11 มีนาคม 2562 พบว่ามีลูกค้าประชาชนทยอยเดินทางเข้ามาติดต่อยื่นคำขอกู้รวมแล้วกว่า 4,100 ราย วงเงินกู้ 2,560 ล้านบาท และธนาคารได้อนุมัติสินเชื่อให้ลูกค้าได้มีบ้านในฝันเป็นของตนเองได้แล้วทั้งสิ้น 3,580 ราย วงเงินกู้ 2,200 ล้านบาท

“การขยายระยะเวลาการทำนิติกรรมไปเป็นภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2564 เพื่อให้เปิดโอกาสให้ประชาชนมีเวลาในการเตรียมความพร้อมด้านเอกสารหลักฐานแสดงที่มาของรายได้เพื่อมาประกอบการยื่นกู้มากขึ้น เพราะหลังจากที่ธนาคารเปิดให้ยื่นกู้ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2562 พบว่ามีประชาชนหลายรายประกอบอาชีพอิสระหรือ ไม่มีเอกสารแสดงรายได้ที่ชัดเจน โดยสามารถติดต่อขอรับคำปรึกษากับเจ้าหน้าที่สินเชื่อเพื่อเตรียมเอกสารที่ต้องนำมาประกอบการยื่นกู้กับธนาคารในแต่ละวัตถุประสงค์การกู้ และแต่ละอาชีพได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ ขณะเดียวกันยังทำให้ผู้ประกอบการมีระยะเวลาในการก่อสร้างที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 1 ล้านบาทเพิ่มเติมเพื่อรองรับความต้องการซื้อของประชาชนกลุ่มนี้ต่อไป”นายฉัตรชัยกล่าว