เร่งดันโครงการแหลมฉบังเฟส3-กรุงเทพฯ
เศรษฐกิจ

เมื่อเวลา9.00น.วันที่14มี.ค. นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางมาตรวจเยี่ยมกิจการการท่ าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.) พร้อมตรวจเยี่ยมการปฏิบัติ งานภายในเขตรั้วศุลกากรของท่ าเรือกรุงเทพ โดยมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ให้การต้อนรับ พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ ห่มม่วง ประธานคณะกรรมการกทท.เรื อโทกมลศักดิ์ พรหมประยูร ผอ.กทท.และคณะผู้บริหารกทท. รายงานผลการดำเนินงานของกทท.
นายสมคิด กล่าวว่า กทท.มีหลายโครงการที่อยู่ระหว่ างการขับเคลื่อน โดยได้กำชับให้เร่งดำเนินการ 3 โครงการสำคัญให้แล้วเสร็จโดยเร็ ว ได้แก่ 1. โครงการคัดเลือกเอกชนเข้าร่ วมลงทุนพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ( ทลฉ.) ขั้นที่ 3 ท่าเรือ F วงเงินลงทุ นกว่า 8.4 หมื่นล้านบาท ซึ่ งจะเปิดให้เอกชนเข้ามายื่ นซองเอกสารประกวดราคา(ทีโออาร์) ในวันที่ 29 มี.ค. นี้ และวันที่ 11 เม.ย.ก็จะได้ตัวผู้ชนะการประมูล จากนั้นจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี( ครม.)พิจารณาต่อไป อย่างไรก็ตามได้รับข้อมูลว่า บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จะร่วมกับนักลงทุนต่างชาติเข้ าร่วมประมูล ซึ่งเป็นเรื่องนี้ เพราะส่วนตัวอยากให้มีกลุ่มทุ นด้านโลจิสติส์จากต่ างประเทศมาร่วมด้วย และทำทุกอย่างด้วยความโปร่งใส เ ชื่อว่าการยื่นซองรอบนี้จะมี เอกชนแข่งขันมากกว่า 2 ราย และจะได้ตัวผู้ลงทุนแน่นอนไม่ต้ องกังวล ทั้งนี้โครงการนี้ถือเป็นบทเรี ยนสำคัญในการพัฒนาทีโออาร์ โครงการอื่นๆว่าควรยืดหยุ่นได้ ไม่ให้มีความเสี่ยงมากเกิ นไปเพราะจะทำให้ไม่มีเอกชนเข้ ามาลงทุน
นายสมคิด กล่าวต่อว่า 2. โครงการพัฒนาท่าเรือกรุงเทพ หรือท่าเรือคลองเตย ซึ่งทำเลดีมากตั้งอยู่ใจกลางเมื องหลวง จำนวน 2,353 ไร่ ราคาตารางวาละประมาณ4แสน คิดเป็นมูลค่าเกือบ 9แสนล้าน เรียกว่าเป็นเศรษฐีที่ร่ำ รวยมหาศาล ดังนั้นขอให้กทท.พัฒนาที่ดินให้ เกิดประโยชน์ เป็นท่าเรือที่ทันสมัยและดึงนั กท่องเที่ยวเข้ามาประเทศไทยให้ มากขึ้น ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะได้ ผลตอบแทนที่ดี โดยศึกษาแนวทางการพัฒนาจากท่ าเรือปูซาน ที่เป็นทั้งท่าเทียบเรือ แหล่งท่องเที่ยว และคอมมูนิตี้คอมเพล็กซ์ ขนาดใหญ่ สำหรับการลงทุนให้พิจารณาแบบไม่ ต้องของบประมาณจากรัฐ แต่อาจใช้วิธีเปิดให้เอกชนเข้ ามาร่วมลงทุนหรือพีพีพี รวมถึงอาจใช้รูปแบบฟิวเจอร์ฟั นด์จัดตั้งกองทุนและขายหน่ วยลงทุนให้ประชาชนได้เข้ามาร่ วมเป็นเจ้าของได้ อย่างไรก็ตามในส่วนของการพั ฒนาพื้นที่อยู่อาศัยเป็ นโครงการสมาร์ท คอมมูนิตี้ นั้น ให้กทท.ตั้งทีมพิเศษขึ้นมาผลั กดันให้เกิดก่อสร้างให้ได้ในปี 63 เร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้ในปี 64 โดยกำชับให้ดูแลประชาชนในพื้นที่ ไม่ให้เดือนร้อน ทั้งเรื่องที่อยู่อาศั ยสามารถใช้ชีวิตและประกอบอาชี พได้ตามปกติ อาจจะไม่ต้องหรูหรามาก แต่อยู่แล้วสบายใจ รวมถึงต้องจัดสวัสดิการดู แลคนในชุมชนด้วย
นายสมคิด กล่าวอีกว่า 3.โครงการท่าเรือระนอง ได้กำชับให้เร่งพัฒนา และประกาศให้ต่างชาติรู้ว่ าไทยกำลังลงทุนดำเนินโครงการพั ฒนาท่าเรือระนองเฟส 1 วงเงิน 5,471 ล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่าจะเป็นที่ สนใจของญี่ปุ่นและจีนที่จะเข้ ามาลงทุน เพราะจะมาทดแทนท่าเรือทวายที่ยั งไม่คืบหน้าได้ เพื่อส่งสินค้าจากไทยส่งออกสู่ ทะเลอันดามันไปถึงประเทศเอเชี ยใต้ อินเดีย บังคลาเทศ และศรีลังกา และยังสามารถเชื่อมต่อพื้นที่ ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(อี อีซี)ได้อีก ทั้งนี้ขอให้ศึกษาการเชื่อมต่ อท่าเรือกับรถไฟทางคู่ และถนนไปยังชุมพร เพื่อสะดวกในการขนถ่านสินค้าด้ วย รวมทั้งให้ศึกษาโครงการท่าเรื อระนองเฟส 2 เพื่อก่อสร้างท่าเรือน้ำลึ กขนาดใหญ่เพิ่มเติมบนเกาะบริ เวณทางด้านใต้ของท่าเรื อระนองให้สามารถเชื่อมการขนส่ งสินค้าออกสู่มหาสมุทรใหญ่ระดั บโลกได้ด้วย
ด้านเรือโทกมลศักดิ์ กล่าวว่า กทท. อยู่ระหว่างการจัดตั้งบริษัทลุ กเพื่อพัฒนาบริหารสินทรัพย์ คาดว่าในเดือนต.ค.ปีนี้ จะนำเสนอให้ ครม.พิจารณาได้ สำหรับผลการดำเนินงานในปี งบประมาณ 61(ต.ค.60-ก.ย.61) กทท. มีกำไรรวม 6,227 ล้านบาท โดยมีรายได้รวม 15,320 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าใช้จ่าย 9,093 ล้านบาท มีการจ่ายปันผล(โบนัส)ให้พนั กงาน 5.5 เดือน ทั้งนี้ในช่วง5เดือนแรกของปี งบฯ62 กทท.มีกำไร2,626 ล้านบาท โดยมีรายได้รวม 6,222 ล้านบาท ค่าใช้จ่าย 3,596 ล้านบาท
นายสมคิด กล่าวว่า กทท.มีหลายโครงการที่อยู่ระหว่
นายสมคิด กล่าวต่อว่า 2. โครงการพัฒนาท่าเรือกรุงเทพ หรือท่าเรือคลองเตย ซึ่งทำเลดีมากตั้งอยู่ใจกลางเมื
นายสมคิด กล่าวอีกว่า 3.โครงการท่าเรือระนอง ได้กำชับให้เร่งพัฒนา และประกาศให้ต่างชาติรู้ว่
ด้านเรือโทกมลศักดิ์ กล่าวว่า กทท. อยู่ระหว่างการจัดตั้งบริษัทลุ