เล็งขึ้นทะเบียนสินค้าจีไอในต่างแดนอีก5รายการ
เศรษฐกิจ
“ยอมรับว่าในปัจจุบันสินค้าจีไอไทยค่อนข้างโด่งในสายตาของนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างมาก โดยเฉพาะมะพร้าวน้ำหอมราชบุรี ที่มีพ่อค้าชาวจีนเข้ามาตั้งโรงคัดบรรจุผลไม้หรือรับซื้อผลไม้ (ล้งจีน) เข้ามารับซื้อถึงแหล่งผลิต และมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีที่สินค้าจีไอของไทยได้รับความนิยมจากต่างประเทศอย่างมาก และถือว่าเป็นสินค้าคุณภาพดี ดังนั้นจึงต้องไปจดทะเบียนคุ้มครองไว้ก่อน เพื่อช่วยส่งเสริมสินค้าจีไอที่จะไปจำหน่ายในอนาคตและป้องกันปัญหาการละเมิดที่อาจจะเกิดขึ้น”
ส่วนสินค้าข้าว ที่นำไปจดในมาเลเซีย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะตลาดมีความต้องการเพิ่มขึ้น จึงต้องหาทางจดเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับสินค้าข้าวที่เป็นจีไอของไทย และยังเป็นไปตามนโยบายของน.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รมช.พาณิชย์ ที่ต้องการให้กรมฯ จดจีไอ สินค้าข้าวในตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะข้าวคุณภาพดี
น.ส.วันเพ็ญกล่าวว่า ปัจจุบัน กรมฯ ได้ดำเนินการยื่นจดทะเบียนจีไอในตลาดต่างประเทศได้แล้ว 7 สินค้า ได้แก่ ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ กาแฟดอยตุง กาแฟดอยช้าง ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง ที่สหภาพยุโรป (อียู) ผ้าไหมยกดอกลำพูน ที่อินเดีย และอินโดนีเซีย เส้นไหมไทยพื้นบ้านอีสาน ที่เวียดนาม ซึ่งสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเหล่านี้ ปัจจุบันสามารถเข้าสู่ตลาดข้างต้นได้ดีขึ้น ผู้บริโภคให้การยอมรับว่าเป็นสินค้าที่ดีมีคุณภาพ ช่วยสร้างรายได้ให้กับผู้ผลิตมากขึ้น
ทั้งนี้ ยังมีสินค้าจีไอที่รอการพิจารณาขึ้นทะเบียนในต่างประเทศอีก 9 สินค้า ได้แก่ ญี่ปุ่น 3 สินค้า คือ กาแฟดอยตุง กาแฟดอยช้าง สับปะรดห้วยมุ่น, จีน 3 สินค้า คือ ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ มะขามหวานเพชรบูรณ์ และส้มโอทับทิมสยามปากพนัง, เวียดนาม 2 สินค้า คือ มะขามหวานเพชรบูรณ์ และลำไยอบแห้งเนื้อสีทอง และกัมพูชา 1 สินค้า คือ กาแฟดอยตุง ซึ่งกรมฯ คาดว่าน่าจะได้รับการจดทะเบียนในเร็วๆ นี้