ข่าวจับตาประชุมเฟด-กนง.ชี้ทิศทางตลาดเงิน - kachon.com

จับตาประชุมเฟด-กนง.ชี้ทิศทางตลาดเงิน
เศรษฐกิจ

photodune-2043745-college-student-s
รายงานข่าวจากกลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา แจ้งว่า   ค่าเงินบาทสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 31.50-31.85 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาปิดที่  31.70 ต่อดอลลาร์ โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้น 5,400 ล้านบาท และพันธบัตรไทย  500 ล้านบาท ส่วนเงินดอลลาร์อ่อนค่าเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ ขณะที่เงินปอนด์ค่อนข้างผันผวนหลังรัฐสภาสหราชอาณาจักรโหวตเพื่อขอให้สหภาพยุโรป (อียู) เลื่อนกำหนด Brexit ออกไปจากวันที่ 29 มี.ค.  ขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) คงนโยบายการเงินตามคาดและระบุว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจต่างประเทศที่ชะลอตัวลง

ทั้งนี้ในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันที่19-20 มี.ค.นี้ ขณะที่ตลาดให้ความสนใจกับท่าทีของเฟดต่อภาวะเศรษฐกิจการเงินสหรัฐฯ เพื่อประเมินทิศทางดอกเบี้ยและการดำเนินมาตรการเกี่ยวกับขนาดงบดุลของเฟดในระยะข้างหน้า รวมทั้งจับตาประเด็นการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน นอกจากนี้ นักลงทุนจะติดตามความพยายามที่จะผลักดันข้อตกลง Brexit ของนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ให้ผ่านรัฐสภาสหราชอาณาจักรอีกครั้งในสัปดาห์นี้ ส่วนการเลื่อนกำหนด Brexit จะต้องอาศัยเสียงสนับสนุนอย่างเป็นเอกฉันท์จากประเทศสมาชิกอียูอีก 27 ประเทศ ซึ่งจะประชุมสุดยอดในวันที่ 21 มี.ค.

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 1.75% ด้วยเสียงไม่เป็นเอกฉันท์ในวันที่ 20 มี.ค.นี้ ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศที่ออกมาอ่อนแอต่อเนื่องรวมถึงการปรับท่าทีของธนาคารกลางหลักสู่การลดระดับคุมเข้มนโยบายทำให้เราปรับคาดการณ์ช่วงเวลาที่จะมีการปรับดอกเบี้ยของไทยออกไป โดยมองว่า หากกนง.จะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ผลโหวตในสัปดาห์นี้ควรมีจำนวนกรรมการที่สนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 

อย่างไรก็ตาม กรณีการส่งสัญญาณคลุมเครือหรือโน้มเอียงในเชิงพิราบมากขึ้น เชื่อว่ากนง.จะพลาดโอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อดูแลความเสี่ยงด้านเสถียรภาพ และมีแนวโน้มตรึงดอกเบี้ยไว้ตลอดช่วงที่เหลือของปีนี้  ภาพรวมสัปดาห์นี้ คาดว่ากระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายจะยังคงสะท้อนความระมัดระวัง ขณะที่ตลาดการเงินจะรอดูความชัดเจนทั้งจาก กนง.และผลการเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค.นี้