ทองคำแท่ง-รูปพรรณปรับขึ้น 150 บาท
เศรษฐกิจ

รายงานข่าวสมาคมค้าทองคำแจ้งว่า ทองคำในประเทศปรับขึ้น 150 บาท เป็นผลมาจากราคาต่างประเทศปรับขึ้นมาแตะอยู่ที่ 1,318.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากเมื่อวานนี้อยู่ที่ 1,305 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐไม่ขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ ส่งผลให้ให้ทองแท่งรับซื้อบาทละ 19,650 บาท ขายออกบาทละ 19,750 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 19,298.68 บาท และขายออกบาทละ 20,250 บาท ถือเป็นการทุบสถิติใหม่ในรอบ 1 เดือน นับจาก 28 ก.พ. ที่ผ่านมา ขณะที่ ค่าเงินบาทแข็งค่าอยู่ที่ 31.65 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากเดิมอยู่ที่ 31.72 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
รายงานข่าวจากบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัดแจ้งว่า ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 6 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามคาด ที่สำคัญ คือ Dot Plot ของเฟดบ่งชี้ว่าเฟดว่าจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแม้แต่ครั้งเดียวในปีนี้ ซึ่งลดลงจากเดิมที่ระบุในการประชุมเดือนธ.ค.ปีที่แล้วว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ นอกจากนี้เฟดจะชะลอการปรับลดงบดุลในเดือนพ.ค. ก่อนที่จะยุติการปรับลดงบดุลในเดือนก.ย.อีกด้วย
ส่วนใน Economic Projection บ่งชี้ถึงมุมมองเชิงลบมากขึ้น โดยเฟดมีการปรับลดคาดการณ์จีดีพี รวมถึงอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐในปีนี้และปีหน้าลง และปรับเพิ่มอัตราการว่างงาน ซึ่งถือว่าการประชุมครั้งนี้เฟดสัญญาณในเชิงผ่อนคลาย (Dovish) มากกว่าที่ตลาดคาดไว้ สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์บริเวณ 1,316.98 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับวันนี้ติดตามผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ(BoE) คาด BoE คงอัตราดอกเบี้ย แต่อาจต้องจับตาการแสดงความเห็นต่อเศรษฐกิจและความเสี่ยงของ Brexit ซึ่งอาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของเงินปอนด์ รวมถึงไปการเปิดเผยผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจจากเฟดฟิลาเดลเฟีย, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.พ.จาก Conference Board
รายงานข่าวจากบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัดแจ้งว่า ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 6 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามคาด ที่สำคัญ คือ Dot Plot ของเฟดบ่งชี้ว่าเฟดว่าจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแม้แต่ครั้งเดียวในปีนี้ ซึ่งลดลงจากเดิมที่ระบุในการประชุมเดือนธ.ค.ปีที่แล้วว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ นอกจากนี้เฟดจะชะลอการปรับลดงบดุลในเดือนพ.ค. ก่อนที่จะยุติการปรับลดงบดุลในเดือนก.ย.อีกด้วย
ส่วนใน Economic Projection บ่งชี้ถึงมุมมองเชิงลบมากขึ้น โดยเฟดมีการปรับลดคาดการณ์จีดีพี รวมถึงอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐในปีนี้และปีหน้าลง และปรับเพิ่มอัตราการว่างงาน ซึ่งถือว่าการประชุมครั้งนี้เฟดสัญญาณในเชิงผ่อนคลาย (Dovish) มากกว่าที่ตลาดคาดไว้ สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์บริเวณ 1,316.98 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับวันนี้ติดตามผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ(BoE) คาด BoE คงอัตราดอกเบี้ย แต่อาจต้องจับตาการแสดงความเห็นต่อเศรษฐกิจและความเสี่ยงของ Brexit ซึ่งอาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของเงินปอนด์ รวมถึงไปการเปิดเผยผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจจากเฟดฟิลาเดลเฟีย, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.พ.จาก Conference Board