ส่งออกเดือนก.พ.พลิกบวกโต5.91%
เศรษฐกิจ

น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า การส่งออกไทยในเดือน ก.พ.62 กลับมาขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน มูลค่า 21,553 ล้านดอลลาร์ หรือบวก 5.9% จากเดือนม.ค.ติดลบ 5.65% ส่วนการนำเข้า มีมูลค่า 17,519.2 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 10.03% ขณะที่ดุลการค้าเกินดุล 4,034.4 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่หากหักสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และอาวุธ มูลค่าการส่งออกจะหดตัวลง 4.9% ขณะที่ภาพรวมในช่วง 2 เดือนแรกของปี 62 การส่งออก มีมูลค่า 40,547.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 0.16% ส่วนนำเข้า มูลค่า 40,545.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 2.20% ดุลการค้าเกินดุล 2 ล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้เนื่องจากปัญหาสงครามการค้าจีนและสหรัฐเริ่มจะหาข้อยุติร่วมกัน คาดว่าจะมีความชัดเจนเดือนเม.ย.-พ.ค.นี้ ทำให้ทิศทางการส่งออกทั่วโลกปรับตัวดีขึ้น รวมทั้งผู้นำเข้ามีความมั่นใจนำเข้าสินค้าจากไทย โดยเฉพาะกลุ่มอาหาร หลังจากรัฐบาลยกระดับการคุ้มครองแรงงานจนสามารถปลดใบเหลืองทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุมของไทย หรือ ไอยูยู
สำหรับส่งออกไปตลาดหลักขยายตัวถึง 23% โดยตลาดสหรัฐอเมริกาขยายตัว 94% แม้จะเป็นการส่งออกสินค้าในกลุ่มที่ไม่ใช่สินค้าส่งออกสำคัญ คือ อาวุธ แต่หากหักออกการส่งออกไปสหรัฐยังขยายตัวเป็นบวก โดยเฉพาะสินค้าที่สหรัฐขึ้นภาษีกับจีน ทั้งโซลาเซลล์ เครื่องซักผ้า เหล็ก และอลูมิเนียม ล้วนขยายตัวทุกรายการ ส่วนตลาดจีนติดลบลดลงเหลือเพียง 1.5% จากม.ค.ติดลบ 16% เนื่องจากไทยสามารถกระจายกลุ่มสินค้าส่งออกไปได้มากขึ้น
ส่วนทิศทางการส่งออกปีนี้ แม้ภาพรวมจะยังทรงตัว โดยเชื่อว่าปัจจัยการฟื้นตัวตามเศรษฐกิจของภูมิภาค รวมทั้งไทยยังปรับตัวได้ดี ทั้งการกระจายกลุ่มสินค้าและกระจายไปยังตลาดใหม่ แต่ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงจากสถานการณ์ค่าเงินบาทที่แข็งค่า ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะดูแลอย่างใกล้ชิดลดความเสี่ยงของผู้ส่งออก นอกจากนี้หลังการเลือกตั้งผู้ส่งออกจะต้องหามาตรการประกันความเสี่ยง เพื่อพยุงการส่งออกก่อนที่จะมีรัฐบาลใหม่ขับเคลื่อนนโยบายทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้เนื่องจากปัญหาสงครามการค้าจีนและสหรัฐเริ่มจะหาข้อยุติร่วมกัน คาดว่าจะมีความชัดเจนเดือนเม.ย.-พ.ค.นี้ ทำให้ทิศทางการส่งออกทั่วโลกปรับตัวดีขึ้น รวมทั้งผู้นำเข้ามีความมั่นใจนำเข้าสินค้าจากไทย โดยเฉพาะกลุ่มอาหาร หลังจากรัฐบาลยกระดับการคุ้มครองแรงงานจนสามารถปลดใบเหลืองทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุมของไทย หรือ ไอยูยู
สำหรับส่งออกไปตลาดหลักขยายตัวถึง 23% โดยตลาดสหรัฐอเมริกาขยายตัว 94% แม้จะเป็นการส่งออกสินค้าในกลุ่มที่ไม่ใช่สินค้าส่งออกสำคัญ คือ อาวุธ แต่หากหักออกการส่งออกไปสหรัฐยังขยายตัวเป็นบวก โดยเฉพาะสินค้าที่สหรัฐขึ้นภาษีกับจีน ทั้งโซลาเซลล์ เครื่องซักผ้า เหล็ก และอลูมิเนียม ล้วนขยายตัวทุกรายการ ส่วนตลาดจีนติดลบลดลงเหลือเพียง 1.5% จากม.ค.ติดลบ 16% เนื่องจากไทยสามารถกระจายกลุ่มสินค้าส่งออกไปได้มากขึ้น
ส่วนทิศทางการส่งออกปีนี้ แม้ภาพรวมจะยังทรงตัว โดยเชื่อว่าปัจจัยการฟื้นตัวตามเศรษฐกิจของภูมิภาค รวมทั้งไทยยังปรับตัวได้ดี ทั้งการกระจายกลุ่มสินค้าและกระจายไปยังตลาดใหม่ แต่ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงจากสถานการณ์ค่าเงินบาทที่แข็งค่า ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะดูแลอย่างใกล้ชิดลดความเสี่ยงของผู้ส่งออก นอกจากนี้หลังการเลือกตั้งผู้ส่งออกจะต้องหามาตรการประกันความเสี่ยง เพื่อพยุงการส่งออกก่อนที่จะมีรัฐบาลใหม่ขับเคลื่อนนโยบายทางเศรษฐกิจ