ข่าว'จีไอที'มั่นใจปีนี้ตลาดเพชรกลับมาคึกคัก - kachon.com

'จีไอที'มั่นใจปีนี้ตลาดเพชรกลับมาคึกคัก
เศรษฐกิจ

photodune-2043745-college-student-s
นางดวงกมล เจียมบุตร ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ จีไอที   เปิดเผยว่า การค้าเพชรแท้ในปี 62 มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น หลังจากที่สมาคมผู้ผลิตเพชรได้ออกแคมเปญใหม่ที่ชื่อว่า  “ของแท้เป็นของหายาก ของแท้คือเพชร” ซึ่งเน้นส่งเสริมให้ผู้หญิงซื้อเพชรแท้ให้แก่ตนเอง ไม่ต้องรอคนรักหรือใครๆ ซื้อให้เหมือนเช่นในอดีต เน้นชูจุดเด่นของเพชรธรรมชาติที่หรูหรา สามารถสวมใส่ได้ทุกวัน เข้ากับเครื่องแต่งกายในทุกรูปแบบ และมีอายุการใช้งานไม่จำกัด เหมาะแก่การลงทุน เพราะเพชรจะยังคงมูลค่า และมีแนวโน้มที่มีมูลค่าเพิ่มอย่างต่อเนื่อง
 
“แคมเปญนี้จะช่วยกระตุ้นให้ผู้หญิงมีความต้องการซื้อเครื่องประดับมากขึ้น และคาดว่าจะทำให้เกิดความต้องการเพชรและเครื่องประดับเพชรทั่วโลกจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เพชรสังเคราะห์ที่นำอัญมณีชนิดอื่นที่มีลักษณะคล้ายเพชรมาใช้เลียนแบบเพชรได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอัญมณีเลียนแบบที่มีทั้งกลุ่มอัญมณีธรรมชาติ เช่น เพทายไร้สี แซปไฟร์ไร้สี และเพชรสังเคราะห์ จากการที่มีราคาถูกกว่าเพชรธรรมชาติ แต่หลังจากที่มีการกระตุ้นให้มีการซื้อเพชรแท้ ทำให้ความคึกคักในการซื้อเพชรกลับมา”
 
นางดวงกมลกล่าวว่า จากแนวโน้มความต้องการซื้อเพชรแท้ที่เพิ่มขึ้น จะเป็นโอกาสของไทยในฐานะที่เป็นประเทศผู้ส่งออกเพชรเจียระไนและผู้ผลิตเครื่องประดับรายสำคัญของโลก ทำให้มีโอกาสส่งออกเพชรและเครื่องประดับที่ทำจากเพชรได้เพิ่มขึ้น ส่วนตลาดในประเทศ คาดว่าจะมีความคึกคักไม่แพ้กัน ซึ่งเป็นผลพวงจากการจัดแคมเปญดังกล่าว ทำให้คนหันมาซื้อเพชรแท้กันมากขึ้น
 
ทั้งนี้ ในการซื้อเพชร เครื่องประดับจากเพชร อัญมณีและเครื่องประดับ ควรจะซื้อจากร้านค้าที่มีใบรับรองคุณภาพ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะได้รับสินค้าที่ดีมีคุณภาพ หรือเลือกซื้อจากร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ในโครงการซื้อด้วยความมั่นใจ (BWC) เพราะเป็นร้านค้าที่ผ่านการรับรองจากสถาบันฯ  โดยปัจจุบัน เพชรเป็นอัญมณีที่ได้รับความนิยมสูงในกลุ่มผู้บริโภค โดยตลาดเครื่องประดับเพชรทั่วโลกมีมูลค่าราว 43,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และประเทศไทยสามารถส่งออกเพชรเจียระไนและเครื่องประดับแท้มูลค่า 2,670 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่การค้าเครื่องประดับแท้ภายในประเทศไทยมีมูลค่ากว่า250,000 ล้านบาท หรือประมาณ 7,854 ล้านดอลลาร์สหรัฐ