คุมเข้มรถทัวร์ 2 ชั้นสงกรานต์เสี่ยงอุบัติเหตุ
เศรษฐกิจ
นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า ขบ. ได้เตรียมความพร้อมช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 62 เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางของผู้โดยสาร โดยเฉพาะรถทัวร์ 2 ชั้นที่ปัจจุบันยังให้บริการอยู่และมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย นอกจากตรวจสภาพรถแล้วยังมีข้อแนะนำพนักงานขับรถที่ไม่มีความชำนาญเส้นทาง หรือเส้นทางที่ขึ้นเขาลงเขาได้กำชับให้ผู้ประกอบการเน้นพนักงานขับรถในการใช้ความเร็วที่เหมาะสม เพราะการขึ้นทางลาดชันหรือลงเขานี้ต้องใช้เกียร์ต่ำ และปฏิบัติตามกฎหมายกำหนดความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด รวมทั้งติดตามระบบจีพีเอส โดยให้สำนักงานขนส่งทั่วประเทศตรวจเช็กจีพีเอสของรถโดยสารแต่ละคัน หากพบผู้กระทำผิดใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนด จะประสานไปยังสถานีปลายทางและตำรวจทางหลวงเพื่อติดตามยับยั้งไม่ให้ใช้ความเร็วเกิน และใช้มาตรการลงโทษต่อไป
นายกมล กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ได้จัดเตรียมรถโดยสารไม่ประจำทาง (รถ 30) หรือรถเสริมที่จะนำมาให้บริการ ตอนนี้ได้ประสานไปยังบริษัทขนส่งจำกัด (บขส.) และ ผู้ประกอบการรถ 30 ให้จัดรถเสริมมาวิ่งช่วงสงกรานต์ บางจุดบางสถานีที่ปริมาณผู้โดยสารมีจำนวนมาก โดยได้เตรียมความพร้อมสภาพรถที่จะมีการตรวจสภาพรถทุก 6 เดือน หรือปีละ 2 ครั้ง เพื่อให้ความมั่นใจกับผู้โดยสารที่ใช้บริการ คาดว่ารถโดยสารสงกรานต์นี้จะให้บริการได้เพียงพอ ขณะเดียวกันผู้โดยสารส่วนหนึ่งมีทางเลือกในการเดินทางกลับด้วยรถไฟมากขึ้นเช่นกัน ส่วนการดำเนินการตรวจรถฟรีขับขี่ปลอดภัย เน้นผู้ที่มีรถส่วนบุคคลเข้ามาตรวจเช็กความพร้อมก่อนเดินทาง เริ่มให้บริการวันที่ 15 มี.ค.-17 เม.ย.62 รวมทั้งสั่งการให้ผู้ตรวจการไปลงพื้นที่ตรวจเช็กรถโดยสารสาธารณะที่จุดตรวจ อาทิ สถานีขนส่งผู้โดยสาร และท่ารถทุกแห่ง เพื่อเตือนผู้ประกอบให้เตรียมความพร้อมสำหรับรถที่จะออกให้บริการประชาชนตามสถานีต่างๆ โดยเช็กตั้งแต่สภาพตัวรถ ดอกยาง กระจกหน้า และอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับความปลอดภัย เช่น เข็มขัดนิรภัย ถังดับเพลิง เบาะที่นั่ง และเครื่องบันทึกข้อมูลการเดินทางให้บริการได้ตามปกติ
นายกมล กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ได้ตรวจความพร้อมพนักงานขับรถ ทั้งใบอนุญาตขับรถ (ใบขับขี่) ถูกต้อง สามารถแทร็กกิ้งกับระบบจีพีเอสได้ ตลอดจนชั่วโมงการเดินทาง ตรวจเช็กแอลกอฮอล์ก่อนขับ หากตรวจพบเล็กน้อยจะสั่งให้ผู้ประกอบการเปลี่ยนพนักงานขับรถทันที ขณะเดียวกันหากตรวจพบเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินกฎหมายกำหนดจะส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป นอกจากนี้มีคำแนะนำให้พนักงานขับรถไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างโดยสาร และการคาดเข็มขัดนิรภัย โดยได้ตรวจเข้มทุกเที่ยววิ่งก่อนรถออกให้บริการ ทั้งรถโดยสารที่ออกจากกรุงเทพฯไปต่างจังหวัด และ รถโดยสารที่ให้บริการระหว่างจังหวัด เฉลี่ยการตรวจรถโดยสารวันละประมาณ 14,000-15,000 เที่ยววิ่งทั่วประเทศ ทั้งนี้ช่วงเทศกาลอาจมีการเสริมรถเข้ามาวิ่งตรวจรถเพิ่มประมาณ 20,000 เที่ยววิ่งต่อวัน