ข่าวต่างชาติเบรกลงทุนรอผลจัดตั้งรัฐบาลใหม่  - kachon.com

ต่างชาติเบรกลงทุนรอผลจัดตั้งรัฐบาลใหม่ 
เศรษฐกิจ

photodune-2043745-college-student-s
น.ส.ธิดาศิริ ศรีสมิต  รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน บลจ.กสิกรไทย  เปิดเผยถึงทิศทางตลาดหุ้นไทยหลังการเลือกตั้ง เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ (sideways) จนกว่าจะทราบผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 พ.ค.  ขณะที่การจัดตั้งรัฐบาลจะยังไม่ได้ข้อสรุปจนถึงปลายเดือนพ.ค.ถึงต้นมิ.ย.ทำให้มีความไม่แน่นอนเรื่องเสถียรภาพของรัฐบาล ซึ่งหากเป็นรัฐบาลชุดเดิมก็จะมีความต่อเนื่องในการสานต่อนโยบายเดิมโดยเฉพาะโครงการภาครัฐขนาดใหญ่ และอีอีซี ซึ่งจะทำให้ตลาดตอบรับในเชิงบวกได้ แต่ถ้าในทางตรงกันข้าม ตลาดน่าจะผันผวนในระยะสั้น เนื่องจากกังวลความต่อเนื่องของนโยบายหรือมีความล่าช้าในการดำเนินการ โดยเฉพาะนโยบายที่ได้ริเริ่มโดยรัฐบาลปัจจุบัน ทำให้ปัจจัยหนุนต่อตลาดหุ้นไทยยังมีความไม่ชัดเจนมากนัก และคาดว่าเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติยังคงไม่ไหลกลับเข้ามาในระยะสั้น

ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นในระยะนี้น่าจะขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกประเทศเป็นหลัก เช่น ความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน การเจรจาเรื่องเบร็กซิท ก่อนกำหนดเส้นตาย และการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกรวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน

" มีมุมมองบวกต่อตลาดหุ้นไทยระยะยาว โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากพื้นฐานเศรษฐกิจไทยที่ยังเติบโตได้จากการขับเคลื่อนของการบริโภค การลงทุนภายในประเทศ และการท่องเที่ยว ผลประกอบการปกติของบริษัทจดทะเบียนในปีนี้ คาดว่าจะยังขยายตัวได้ในอัตรา 5-6% แต่หากดูตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนในตลาด (concensus) จะเห็นว่ามีอัตราการเติบโต 13% เนื่องจากไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมา กลุ่มพลังงานมีตัวเลขขาดทุนที่เกิด stock loss จำนวนมากจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงมาต่ำมากในช่วงปลายปี รวมถึงรายการพิเศษอื่นทำให้ฐานกำไรในปีที่ผ่านมาต่ำกว่าปกติ” 

อย่างไรก็ตาม ดัชนีที่ปรับลดลงมาใกล้เคียงค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี รวมทั้งอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลของตลาดโดยรวมที่ระดับ 3.4% จึงประเมินว่าในระยะสั้นดัชนีตลาดหุ้นจะปรับตัวผันผวนอยู่ในช่วง 1,600-1,680 จุด และยังคงเป้าหมายสิ้นปีไว้ที่ระดับ 1,750 จุด ด้วย Forward PE ที่ 15.7 เท่า

ทั้งนี้แนะนำกองทุนเปิดเค หุ้นระยะยาวปันผล (KDLTF) ที่เน้นลงทุนในหุ้นใหญ่ มีปัจจัยพื้นฐานดี กระจายการลงทุนในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อสร้างโอกาสการทำกำไรในทุกสภาวะตลาด โดยมุ่งหวังให้ได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าดัชนีชี้วัด กองทุนกองทุนเปิดเค เซ็ท 50 (K-SET50) ซึ่งเป็นกองทุนประเภท Passive ที่เน้นลงทุนให้ได้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี SET50 ด้วยมูลค่าลงทุนขั้นต่ำเพียง 1 บาท ผ่านช่องทางดิจิตอลอย่าง K-My Funds และ K-Cyber Invest และกองทุนเปิดเค สตาร์ หุ้นทุน-A ชนิดรับซื้อคืนอัตโนมัติ (K-STAR-A(R)) ที่เน้นลงทุนในหุ้นที่มีศักยภาพเติบโตในระยะยาว มีการบริหารจัดการกองทุนที่โดดเด่นติดอันดับกองทุน 5 ดาว จาก Morningstar (ที่มา Morningstar ข้อมูล ณ วันที่ 28 ก.พ. 62)